VL ปักธงรายได้ปีนี้โต 20% รับศก.ครึ่งหลังฟื้น-โควิดคลาย ตั้งเป้าปี 66 ดันกองเรือแตะ 14 ลำ

VL ปักธงรายได้ปีนี้โต 20% รับศก.ครึ่งหลังฟื้น-โควิดคลาย หลังได้ฉีดวัคซีนมากขึ้น คาดส่งผลดีต่อการขนส่ง การคมนาคม และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งเป้าปี 66 ดันกองเรือแตะ 14 ลำ


นางชุติภา กลิ่นสุวรรณประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ VL นำเสนอข้อมูลภาพรวมธุรกิจบริษัท และสรุปผลประกอบการไตรมาส 1/2564 สิ้นสุด 31 มี.ค.2564 รวมทั้งแผนธุรกิจในปี 2564 และในอนาคต ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 25 พ.ค.2564

สำหรับธุรกิจบริษัท VL  เป็นผู้ให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ทางทะเล ทั้งในประเทศและต่างประเทศในระดับภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจุบันบริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 13 ลำ โดยมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 41,893 เดทเวทตัน (DTW) โดยมีอายุเฉลี่ยกองเรือ 15 ปี ซึ่งแบ่งเป็นสัญญาให้บริการ 3 ประเภท ได้แก่ สัญญาระยะยาว,สัญญาแบบเหมาและสัญญารายเที่ยว

โดยการขนส่งทางทะเลมีสินค้าหลักอยู่ 5 ประเภทได้แก่ น้ำมันดิบ,น้ำมันเตา,น้ำมันใส่,น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์ม โดยแบ่งเป็นการให้บริการขนส่งทางทะเลในประเทศ จำนวนเรือ 8 ลำ และให้บริการขนส่งทางทะเลในต่างประเทศ มีจำนวน 5 ลำ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 มีทิศทางที่ดีขึ้นทั้งในเดือนเม.ย.และพ.ค. แม้จะเจอสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสาม แต่ก็ยังสามารถรับส่งสินค้าได้ตามปกติ ประกอบกับมีการรับเรือ VL 23 เข้ามาในเดือนเม.ย. ซึ่งเข้ามาหนุนรายได้ของบริษัทในปีนี้อีกช่องทางหนึ่ง

โดยบริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 64 เติบโตที่ 15-20% โดยคาดว่าสถานการณ์ไตรมาส 3 และ 4 จะดีขึ้น หลังประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น คาดจะส่งผลดีต่อการขนส่ง การคมนาคม และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการตามปกติได้ 

ส่วนแผนธุรกิจ VL ในอนาคตเดินหน้าขยายกองเรือต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี 2563  มีเรือทั้งหมด 12 ลำ ขนาด 39,019 เดทเวทตัน (DTW)  และปี 2564 มีเรือจำนวน 13 ลำ ขนาด 41,893 เดทเวทตัน (DTW) โดยสามารถ ขนส่งมากเป็นดับ 2 และในปี 2565 จะมีเรือจำนวน 13 ลำขนาดบรรทุก 50,801 เดทเวทตัน (DTW) เนื่องจากจะมีการจำหน่ายเรือที่มีอายุการใช้งานมากออกไป 1 ลำ และมีการซื้อเรือใหม่เพิ่ม 1 ลำ ซึ่งจะทำให้มีน้ำหนักบรรทุกเรือรวมดังกล่าว และตั้งเป้าปี 2566 จะมีเรือ 14 ลำ ขนาดบรรทุก 53,801 เดทเวทตัน (DTW) 

สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจ คือ บริษัทมีบุคลากรที่มีคุณภาพและประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปี อีกทั้งบริษัทให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเห็นได้จากอายุเรือเอายุน้อยมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีอายุกองเรือน้อยเฉลี่ยเท่ากับ 15 ปี นอกจากนี้ธุรกิจยังได้รับมาตรฐาน และมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับระดับโลก ด้วยอัตราการเกิดอุบัติเหตุขนส่งคิดเป็นร้อย 0.01 ของจำนวนเที่ยวที่วิ่งทั้งหมดในปี 2563 ขณะเดียวกันยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญบริษัทใช้เครื่องยนต์ที่มีการควบคุมปล่อยก๊าซในโตเจนออกไซด์ ได้รับการรองรับระดับ Tier lll ซึ่งช่วยรักษาสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ด้านนายธเนศ ปรุงเจริญกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 3 เดือนแรกปี 2564 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.7 ส่วนการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน 3 เดือนแรกปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.1 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการใช้น้ำมันเบนซินลดลงอยู่ที่ 0.07 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่นการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล 3 เดือนแรกปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 67.2ล้านลิตรต่อวันลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามการขนส่งน้ำมันปาล์มยังเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีแผนขยายการขนส่งน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น โดยมองไปที่การลงทุนซื้อเรือขนาดใหญ่ขนาด 10,000-12,000 DWT ซึ่งในการซื้อเรือลำใหม่ก็เพื่อถรองรับดีมานด์การขนส่งในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูง โดยจะมีการขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ ไปยังประเทศจีน และอินเดีย

ส่วนแนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตไม่น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่มากระทบกับรายได้ของบริษัท โดยจากการศึกษาของบริษัทในเรื่องของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในอนาคตคาดว่าประมาณ 15 ปี จะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งตามถนนในประเทศไทยประมาณ 40-50 % แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการส่งเสริมของภาครัฐและปัจจัยอื่นๆเช่น การพัฒนา สถานีบริการชาร์จไฟฟ้า อู่ซ่อมรถไฟฟ้า ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาต่อไป

อีกทั้งสัดส่วนการใช้น้ำมันภาคขนส่ง ปัจจุบัน สัดสัดส่วนอยู่ที่ 39% และยังมีสัดส่วนการใช้น้ำมันในส่วนของ ภาคอุตสาหกรรม ,เกษตรกรรม,ที่อยู่อาศัย ซึ่งมีสัดส่วนรวมอยู่ที่ประมาณกว่า 60% เชื่อว่าจะหนุนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

Back to top button