RS คาดรายได้ปีนี้แตะ 1.05 หมื่นลบ. รับอีคอมเมิร์ซโตต่อเนื่อง-M&A เสริมแกร่งธุรกิจ
RS คาดรายได้ปีนี้แตะ 1.05 หมื่นลบ. รับอีคอมเมิร์ซโตต่อเนื่อง-M&A เสริมแกร่งธุรกิจ พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่องตลอดปี
นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 25 พ.ค.2564 ระบุว่า บริษัทเตรียมทบทวนเป้ารายได้ปีนี้หลังจากปิดงบไตรมาส 2/64 จากที่ตั้งไว้ 5,700 ล้านบาท หลังธุรกิจ Commerce เติบโตต่อเนื่อง โดยคาดทำรายได้ให้บริษัทปีนี้ที่ 4,000 ล้านบาท และเชื่อว่ารายได้รวมจะพุ่งแตะ 10,500 ล้านบาทภายในปี 67 เน้นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Commerce 80%
โดยปัจจุบันธุรกิจ Commerce มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีก่อนทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 2,400 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มช่องทางการขายมากขึ้นและการนำระบบไอทีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย ประกอบกับการออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ขณะที่ในปีนี้บริษัทยังมีการทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากแบรนด์ใหม่ S.O.M. และ Well u ที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, Vitanature และทองเอก ที่เป็นผลิตภัณฑ์สารสกัดจากสมุนไพร, Camu C ที่เป็นผลิตภัณฑ์ Functional drink และ Revive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ซึ่งมีการพัฒนาสูตร และเพิ่ม SKU อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ในเดือน ก.ย.อีกด้วย
สำหรับสินค้าที่จะมาเป็นไฮไลท์ของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารกัญชาและกัญชง ซึ่งจะออกมาในรูปแบบสินค้าอาหารเสริมและเครื่องดื่ม โดยทางบริษัทมีความพร้อมเรื่องสูตรและผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามยังคงรอกฎหมายจากภาครัฐ ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะได้เห็นสินค้าดังกล่าวออกมาวางตลาดภายในไตรมาส 3/64
ส่วนกรณีการ M&A กับ บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จำกัด (4th Apple) ว่าบริษัทใช้เงินลงทุนทั้งหมด 13 ล้านบาท ถือหุ้น 70% โดยมองว่าทาง 4th Apple จะสามารถต่อยอดคอนเท้นท์ออนไลน์ให้กับทางบริษัทได้ เนื่องจากทาง 4th Apple มีคอนเนคชั่นที่แข็งแรงกับบริษัทเกาหลีหลายบริษัท สามารถติดต่อให้นักแสดงเกาหลีมาทำคอนเท้นในรูปแบบรายการต่าง ๆ ที่จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มเจนเนอเรชั่นใหม่ได้ ประกอบกับกระแส K-pop ยังได้รับความนิยมในหลายประเทศไม่ใช่แค่ในไทย แต่ยังรวมไปถึง ประเทศ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศในกลุ่ม CLMV อีกด้วยนอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปถึงการสร้าง Influencer กลุ่มใหม่ให้มาโปรโมทสินค้าของบริษัทได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุยกับอีก 2 บริษัท เพื่อที่จะทำ M&A โดยมีการลงทุนประมาณ 300-600 ล้านบาทต่อดีล ซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพ สามารถเข้ามาเสริมด้านธุรกิจ Commerce และ Entertainmerce ได้
ด้านการลงทุนในบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ที่ประกอบธุรกิจไฟแนนซ์ ซึ่ง RS เข้าถือหุ้น 35% ประเมินเบื้องต้นว่าจะรับรู้กำไรประมาณ 90-100 ล้านบาท คาดว่าจะเข้ามาเสริมกำไรของบริษัทอีกช่องทางหนึ่งในปีนี้