EA เป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 20% โชว์ความพร้อมลงทุน 6.10 พันลบ. ขยายโซลาร์-EV-แบตเตอรี่
EA นำเสนอข้อมูลงบไตรมาส 1/2564 พร้อมแผนลงทุนงาน Opportunity Day เป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 20% โชว์ความพร้อมลงทุน 6.10 พันลบ. ลุยขยายโซลาร์-EV-แบตเตอรี่
นายวสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ และวางแผนการลงทุน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA นำเสนอข้อมูลสรุปผลประกอบการไตรมาส 1/2564 สิ้นสุด 31 มี.ค.2564 และเปิดเผยแผนดำเนินการในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 24 พ.ค.2564
โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวดดังกล่าว 1.41 พันล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.45 พันล้านบาท ซึ่งมีรายได้รวมของไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 4.70 พันล้านบาท ค่อนข้างใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ขณะที่กำไรขั้นต้นถือว่าทำได้ค่อนข้างดี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.15 พันล้านบาท จากปีก่อน 2.06 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย มาจากค่าใช้จ่ายเพื่อเปิดดำเนินการธุรกิจใหม่ๆ ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย
สำหรับธุรกิจไบดีเซล ในส่วนของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เล็กน้อย แต่ราคาขายไบโอดีเซลดียังปรับตัวดีขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนที่ลดลง ดังนั้นภาพรวมไบโอดีเซลยังคงดูดี
ด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทฯ มีพลังงานลม 386 เมกกะวัตต์ (MW) และพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) 278 เมกกะวัตต์ ขณะที่ในปี 64 นี้ บริษัทฯ จะทำการปรับเปลี่ยนแผงโซลาร์สำหรับโรงไฟฟ้าที่จ. นครสวรรค์ และจ.ลำปาง โดยแผนการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4/2564 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์เติบโตได้ดีขึ้น 10-15%
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ATT) ระยะที่ 1 ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันยังเดินหน้าได้ตามแผน โดยอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานของเครื่องจักรทั้งระบบ คาดว่าโรงงานจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในช่วงไตรมาส 3/2564 โดยระยะแรกจะจำหน่ายแบตเตอรี่ไปยังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าภายในกลุ่มของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า
ส่วนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบรถบัสไฟฟ้า จำนวน 120 คัน และจะทยอยส่งมอบไปจนถึงปลายปีนี้รวมประมาณ 500 คัน ซึ่งในระยะแรก บริษัทฯ ได้ใช้บุคลากรของ บริษัท ไมน์โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จํากัด และบริษัทในกลุ่ม NEX ในการประกอบรถบัสไฟฟ้า และเมื่อโรงงาน AAB ก่อสร้างแล้วเสร็จจึงจะเริ่มผลิตรถบัสในล็อตถัดไป
ทั้งนี้ โครงการรถบัสไฟฟ้าตามแผนกลยุทธ์ในการขยายไปยังธุรกิจรถบัสโดยสาร ผ่านพันธมิตร บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรถบัสและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท และถือหุ้นในสัดส่วน 55% (ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อย อีเอ โมบิลีตี โฮลดิง จำกัด (EMH)
โดย EA ถือว่าเป็นผู้ให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งประกอบ และการดูแลหลังการขาย โดยมีโรงงานประกอบรถ EV ซึ่งเป็นโรงงานประกอบรถบัสขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิตที่สามารถผลิตได้ 3,000 คันต่อปี ร่วมกับพาสเนอร์อย่าง บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX และเบสท์ ริน กรุ๊ป ขณะที่การให้บริการเรือพลังงานไฟฟ้า (EV Ferry) นั้น บริษัทคาดการณ์ว่าในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ จะสามารถให้บริการได้ทั้งหมด 27 ยูนิต
ด้านธุรกิจการชาร์ทพลังงานไฟฟ้า EA เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยมีสถานีชาร์ทมากที่สุดในประเทศไทย และมีระบบจองที่ทันสมัย และมีพาร์ทเนอร์เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ส่งผลให้เข้าถูกผู้ใช้บริการอย่างทั่วถึง ปัจจุบันครอบคลุม 417 สาขา คิดเป็นที่ 60% ของสถานีทั่วประเทศ สำหรับเป้าหมายปีนี้ตั้งจุดชาร์ทอยู่ที่ 1,000 จุดในสิ้นปี
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งงบการลงทุนจำนวน 6.10 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งเงินทุนเตรียมพร้อมแล้ว โดยจะเป็นการใช้ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนจำนวน 2.79 พันล้านบาท ,ลงทุนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า 1.51 พันล้านบาท ,ธุรกิจแบตเตอร์รี่จำนวน 1.22 พันล้านบาท ,ธุรกิจสถานีชาร์ทไฟฟ้า 426 ล้านบาท และธุรกิจไบโอดีเซล 32 ล้านบาท รวมถึงใช้สำหรับการศึกษาเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกใหม่ๆ 122 ล้านบาท
“แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2564 และไตรมาส 3/2564 คาดการณ์ว่า ธุรกิจรถบัสไฟฟ้า และสถานีชาร์ทไฟฟ้าจะเริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 3 และจะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มเติมเข้ามา ขณะที่ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ หลังจากมีการปรับเปลี่ยนแผงโซลาร์จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์ว่ารายได้ในปีนี้จะสามารถทำได้ดีกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 20%” นายวสุ กลมเกลี้ยง กล่าว