XPG เล่นไม่เลิก! พุ่งอีก 12% เมินตลท. จับติด Cash Balance ยาวถึง 10 มิ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (27 พ.ค.64) ราคาหุ้น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ณ เวลา 15.27น. อยู่ที่ระดับ 7.95 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 11.97% มูลค่าการซื้อขาย 318.38  ล้านบาท โดยราคาสูงสุด 8.00 บาท ขณะที่ราคาต่ำสุด 7.10 บาท

ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้ XPG และใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4 หรือ XPG-W4 เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย โดยขยายช่วงเวลาดำเนินการ ระดับ 3 : ห้าม Net settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายและ Cash Balance เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2564 สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย.2564

อนึ่ง XPG ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 โชว์ผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งพลิกมามีกำไรสุทธิ 50.41 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 7.49 ล้านบาทโดยมีรายละเอียดดังนี้

ส่วนหนึ่งมาจากกำไรจากเงินลงทุน 21.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.82 ล้านบาท โดยหลักจากกําไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนและเงินลงทุนในตราสาร ทุนอื่นๆ จํานวน 8.46 ล้านบาท อีกทั้งยังมีกําไรจากจากเงินลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้นจากปีกก่อนจํานวน 6.36 ล้านบาท

นอกจากนี้มีส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในไตรมาสนี้เท่ากับ 70.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 50.56 ล้านบาท โดยบริษัทรับรู้ ส่วนแบ่งกําไรจํานวน 68.80 ล้านบาท จากบริษัทหลักทรัพย์กรุงไทย ซีมิโก้จํากัด (“กรุงไทย ซีมิโก้”) ซึ่งบริษัทถือหุ้นในอัตราร้อยละ 49.71 กรุงไทย ซีมิโก้ มีรายได้รวมเติบโตขึ้นจากปีก่อนมากคิดเป็นอัตราร้อยละ 77

โดยหลักจากรายได้ค่านายหนน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น จากทั้งมูลค่าซื้อขาย หลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ (ไม่รวมบัญชีบริษัทหลักทรัพย์) ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้วเป็นจํานวน 87 พันล้านบาทต่อวันโดยเฉลี่ย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 47 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าและความสามารถในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดการซื้อขายหลักทรัพย์ของกรุงไทย ซีมิโก้ จากร้อยละ 2.16 ในไตรมาสที่หนึ่งปีที่แล้วเป็นร้อยละ 2.49 ในไตรมาสนี้

นอกจากนี้กรุงไทย ซีมิโก้ยังสามารถเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการใน ขณะเดียวกันยังคงลดและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานอื่นตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ทําให้ผลการดําเนินงานของบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ โดยมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่หนึ่งปีนี้จํานวน 138.41 ล้านบาท