แรงขายทำกำไรกด SET พลิกลบ 1 จุด แวลู่หนาแน่น 9.95 หมื่นลบ. จับตาการเร่งนำเข้าวัคซีนโควิด
แรงขายทำกำไรกด SET พลิกลบ 1 จุด แวลู่หนาแน่น 9.95 หมื่นลบ. จับตาการเร่งนำเข้าวัคซีนโควิด โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,581.98 จุด ลดลง 0.98 จุด หรือ 0.06% มูลค่าการซื้อขาย 9.95 หมื่นล้านบาท
สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดที่ระดับ 1,581.98 จุด ลดลง 0.98 จุด หรือ 0.06% มูลค่าการซื้อขาย 9.95 หมื่นล้านบาท
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ด้านนายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพโดยรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ หลังทดสอบแนว 1,590 จุดได้ ตอบรับปัจจัยในประเทศเรื่องการเร่งฉีดวัคซีนโควิดในเดือนมิ.ย.นี้ ทำให้มีความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจจากการเปิดเมือง ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องปรับตัวขึ้นได้ดีในวันนี้ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยว เป็นต้น
นอกจากนี้ ต่างประเทศก็ไม่มีปัจจัยลบ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นยังไม่น่ากังวล ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันก็ดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้ แต่ยังต้องจับตาการเร่งนำเข้าวัคซีนโควิดทั้งตัวหลักและวัคซีนทางเลือกเพื่อสร้างความชัดเจนขึ้น ซึ่งหุ้นกลุ่ม Domestic plays น่าจะหนุนดัชนีฯให้ไปต่อได้ นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมนักวิเคราะห์ฯสำหรับหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดเล็ก น่าจะได้เห็นคำแนะนำที่เป็นบวกมากขึ้นหลังจากที่มีการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งก็อาจทำให้หุ้นรายตัว-รายกลุ่มน่าสนใจขึ้น
พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,590-1,600 จุด หากผ่านได้จะมีแรงเก็งกำไรในเดือนมิ.ย. และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,630 จุด แต่หากยังไม่ผ่านก็อาจจะพักตัวอีกรอบแต่ไม่น่ากังวล
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,455.48 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 5,286.94 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
CBG มูลค่าการซื้อขาย 2,868.04 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
ITD มูลค่าการซื้อขาย 2,464.24 ล้านบาท ปิดที่ 2.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
RCL มูลค่าการซื้อขาย 2,324.08 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
ตลาดหุ้นเอเชีย