KWM ลุยสกัด “พืชกระท่อม” ยกระดับสมุนไพรไทย-ตปท.

KWM ลุยสกัด “พืชกระท่อม ” ผลิตเป็นเวชภัณฑ์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ต้องการตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในประเทศ-ตปท.


นายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM ผู้นำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตรและมีประสบการณ์ด้านงานวิศวกรรมเครื่องกล รวมถึงผู้นำด้านการผลิตเครื่องสกัดระบบ SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION กัญชง-กัญชา และสมุนไพรไทย สัญชาติไทยเป็นรายแรกของประเทศเปิดเผยว่า หลังจากราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8 )พ.ศ. 2564 ยกเลิก “พืชกระท่อม”จากยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีผลบังคับใช้ในอีก 90 วัน หรือประมาณช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564

โดยล่าสุด KWM มีความพร้อมในการนำ “พืชกระท่อม” มาสกัดสารสำคัญเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ต้องการตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่ง KWMคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากพืชกระท่อม จะมีความชัดเจนภายในปี 2565

ทั้งนี้มองว่าการปลดล็อก พืชกระท่อม ยังเป็นการต่อยอดเพื่อให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะเป็นอุตสาหกรรมใหญ่เพราะสามารถนำพืชกระท่อมมาสกัดสารสำคัญเพื่อใช้สำหรับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และพืชกระท่อมเป็นพืชที่เพาะปลูกได้ดีในพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งทำให้ได้เปรียบในด้านแหล่งผลิตวัตถุดิบ

นอกจากนี้เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญทางด้านการสกัดของ KWMจะเป็นการยกระดับสมุนไพรไทย ให้มีศักยภาพที่จะแข่งขันในระดับสากลในอนาคต

อีกทั้งจากความโดดเด่นด้านเทคโนโลยี วิธีการทางเทคนิค วิทยาการความรู้ (Know-How)ในการผลิตเครื่องจักรทางด้านเกษตร จนแตกไลน์สู่การผลิตเครื่องสกัดด้วยระบบเครื่องสกัดด้วยของไหลวิกฤตยิ่งยวด(SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION)เพื่อสกัดสารจากพืชกัญชา และสมุนไพรไทยโดยมุ่งเน้นสารสกัดที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร เพื่อนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอาง ยา รวมถึงเครื่องดื่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี KWM ยังมีนโยบายในการช่วยผลักดันภาคการเกษตรของไทยเข้าสู่เกษตรสมัยใหม่หรือ โมเดิร์นฟาร์ม (Modern Farm) เช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้เห็นว่า KMWเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการสกัดและผลิต แบบ one stop serviceในระดับต้นๆของประเทศ

“KWM เชื่อว่าจากจุดเริ่มต้นในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ด้านการเกษตร สู่การแตกไลน์ธุรกิจใหม่ในครั้งนี้จะเป็นตัวสร้างมูลเพิ่มให้กับบริษัทฯ ในอนาคตได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น และยังลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจหลักเพียงอย่างเดียวถือว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงได้อย่างลงตัว ซึ่งมีการผลิต คิดค้นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลาย” นายอุกฤษณ์กล่าว

ด้าน KWM ได้เตรียมความพร้อมในด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจไว้แล้ว โดยแผนการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 70 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 210 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 280 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ KWM-W1ที่ KWMได้ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราการจัดสรรเท่ากับ 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ออก และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญของบริษัท 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายใน KWM และใช้สำหรับการรองรับแผนขยายไลน์ธุรกิจไปยังผลิตเครื่องสกัดสารสกัดจากพืชสมุนไพร โดยจะช่วยเพิ่มศักยภาพสถานะทางการเงินของKWM ให้มีสภาพคล่องจากเงินทุนรองรับในอีก 2 ปีข้างหน้าหากผู้ถือหุ้นมีการแปลงสภาพหมดตามสิทธิ ซึ่งส่งผลดีต่อKWMในอนาคต ในการนำเม็ดเงินทุนไปต่อยอดและขยายการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสู่การเติบโตและยั่งยืนให้บริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ โดย KWMจะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2564 เพื่อขออนุมัติผู้ถือหุ้นพิจารณาวาระการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ KWM ดังกล่าว

Back to top button