Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย
สรุปภาวะตลาดเช้า
– SET Index แดงฉาน ดัชนีลงต่อเนื่องอีก 13.06 จุด (-0.95%) ปิดภาคเช้าไปแบบช้ำๆที่ 1,366.26 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1.54 หมื่นล้านบาท
– Most Positive Impact: U (+0.59 จุด) JASIF (+0.11 จุด) THIF (+0.08 จุด)
– Most Negative Impact: SCC (-2.28 จุด) SCB (-1.43 จุด) PTTGC (-0.71 จุด)
จุดสังเกต: SCC ปรับลงหนักหน่วงสะเทือนใจกว่า 3.66% ดึงดัชนีลง 2.28 จุด จากการหาข้อมูลและวิเคราะห์สาเหตุ โดยนักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีของ KS ประเมินว่าน่าจะเกิดจาก Demand ปูนซีเมนต์ในประเทศ ยังไม่โตในงวด 3Q58 ซึ่งทำให้เกิด Downside ของประมาณการณ์เติบโตที่ฝ่ายวิจัยทำไว้ ซึ่งถ้าลองทำ Sensitivity ของการเติบโตให้เหลือ 0% จะทำให้กำไรสุทธิหายไป 1.2 พันล้านบาทหรือ 3% ของประมาณการณ์กำไรปี 2558 ทั้งนี้ผลประกอบการในงวด 3Q58 น่าจะเป็นจุดต่ำสุด จาก Demand ปูนซีเมนต์ที่ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง และ Spread ปิโตรเคมีลดลง เบื้องต้นประเมินกำไร 3Q58 ไว้ที่ 9 พันถึง 1 หมื่นล้านบาท ลดลง 30-35% qoq
แนวโน้มตลาดบ่าย
– “ช่วงรอดูการทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1,364 จุด หากหลุดจากระดับนี้อาจลงต่อเนื่องเกิน 1,360 จุด” แต่ถ้าหาก 1,364 จุดสามารถยั้งไว้ได้ และดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาปิดตัวเหนือ 1,370 จุด ภาพทางเทคนิคจะดีขึ้น และชี้นำให้ SET Index ปรับขึ้นในวันพรุ่งนี้ได้
Sentiment การลงทุนดูแย่ตั้งแต่เช้า หลังจีนประกาศตัวเลข PMI ออกมาแค่ 47 จุด ต่ำกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ที่ 47.5 จุด และยังเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน โดยตลาดหุ้นโซน Northeast Asia ส่วนใหญ่จะปรับลงกันเกิน 1% ส่วนตลาดหุ้นไทย วันนี้กลุ่มธนาคารฯ ยังคงลงหนักอีก 1.5% กดดัน SET 3.28 จุด ตามมาด้วย วัสดุก่อสร้าง สื่อสาร พลังงาน ปิโตรเคมี ก็พากันลงหนักเช่นกัน ประเมินการเคลื่อนไหวของ ดัชนีในช่วงบ่ายเป็นไปได้ว่าจะไม่ลงต่ำกว่า 1,364 จุด เนื่องจากมองว่า กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน น่าจะลงมามากพอสมควรแล้ว ช่วงบ่ายจึงอาจไม่ร่วงไปมากกว่าภาคเช้า และเป้นไปได้ว่าจะเริ่มมีแรงซื้อเข้าเก็บเนื่องจากราคาอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณี 1,364 จุดเอาไม่อยู่ดัชนีอาจไหลลงจนต่ำกว่า 1,360 จุด
– ประเด็นจับตา/ติดตาม
(-) ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง – ล่าสุดอยู่ที่ 36.18 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าของ US Dollar มองเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าว่าที่เห็นในปัจจุบันอีก ซึ่งน่าจะกดดัน SET Index ไปได้อีกซักระยะ
(+/-) รายงาน PMI ล่วงหน้าของ ยุโรป และสหรัฐฯ โดยตลาดคาดว่า PMI ยุโรปจะอยู่ที่ 50.4 จุดและสหรัฐที่ 52.8 จุด
(+/-) การรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. – คาดว่า ก.พาณิชย์ จะประกาศในวันที่ 28 ก.ย.58 โดยตลาดคาดไว้ว่าจะติดลบ 2.8% yoy (ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.58 ติดลบ 3.56% yoy เป็นการติดลบ 7 เดือนติดต่อกัน)
(-) การปรับคาดการณ์เป้าหมาย GDP Growth – วันที่ 25 ก.ย.58 ธปท.จะทำการทบทวนเป้าหมาย GDP Growth ปี 2558 และ 2559 จากของเดิมที่วางไว้ว่าจะขยายตัว +3% และ 4.1%
– หุ้นแนะนำ: CENTEL จากสถานการณ์เชิงบวกของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ VNG ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า บวกกับผลประกอบการไตรมาส 3 มีโอกาสโตโดดเด่น
Investment Theme
– Value Play กลุ่มพลังงานจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ (PER และ PBV ต่ำที่สุดในรอบหลายปี) IRPC หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แบ่งเป็น รับเหมาฯ CK PYLON วัสดุก่อสร้าง SCC TASCO กลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล AEONTS SAWAD กลุ่มค้าปลีก GLOBAL HMPRO ROBINS กลุ่มยานยนต์ SAT กลุ่มอสังหาฯ PS หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า SVI VNG หุ้น 3Q58 Earning Plays BANPU และ หุ้น 2H2015 Earning Growth MINT CENTEL CPN AOT