HEMP เปิดแผนปลดเครื่องหมาย “C” เน้นปรับโครงสร้าง-ลุยธุรกิจสุขภาพ
HEMP เปิดแผนแก้เครื่องหมาย C เน้นสร้างรายได้ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ-ปรับโครงสร้างการบริหาร-ปรับลดพนักงาน
บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ HEMP ระบุว่า ตามที่บริษัทฯ ได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) เมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564 กรณี หลักทรัพย์ของบริษัทฯ ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C” เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินในส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564
โดยมีความคืบหน้าและแนวทางการแก้ไข ดังนี้ สำหรับความคืบหน้าจากการประชุม Public Presentation จากการประชุมครั้งที่ผ่านมา ผลการดำเนินงาน ณ 31 มีนาคม 2564 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯเป็นบวกอยู่ที่ 164 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 12 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย 7 ล้านบาท และรายได้จากการปล่อยพื้นที่เช่า 4 ล้านบาท ขาดทุนสะสมอยู่ที่ 14 ล้านบาท
สำหรับรายได้ของบริษัท ที่ลดลงเกิดจากการปรับโครงสร้างการบริหาร และชะลอการลงทุนในธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มแก๊ตแจ็ค (Gadgets) เนื่องจากในภาวะตลาดปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวไม่สามารถสร้างผลก าไรให้กับบริษัทฯ ตามที่คาดหวังไว้ ดังนั้น บริษัทฯจึงพิจารณาชะลอการลงทุนเพิ่มในธุรกิจนี้ไปก่อน จึงเป็นที่มาของการลดสาขาและปล่อย พื้นที่ให้เช่าช่วงเพิ่มขึ้น เพื่อบริหารพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระหว่างไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขธุรกิจ มีดังนี้
1) ด้านการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นด้านธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ (Healthcare) อาทิ ผลิตภัณฑ์ สมุนไพร การแพทย์แผนไทย เวชภัณฑ์เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในกระแสในปัจจุบัน สามารถสร้างรายได้และมีโอกาสทำกำไรให้กับบริษัทฯ ได้
ทั้งนี้ บริษัทฯได้เข้าลงทุนในบริษัทย่อยและดำเนินการตามแผนในระยะยาวแล้ว หากมีความคืบหน้าประการใดบริษัทฯ จะรายงานผ่านหน้าเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
2) ด้านโครงสร้างและการบริหาร บริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างการบริหารและปรับลดพนักงานไปแล้วกว่า 50% และได้มีการย้ายที่ตั้งสำนักแห่งใหม่ตามที่ได้แจ้งผู้ถือหุ้นไปแล้ว ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป