NCH คาดผลงาน Q2 สดใส รับยอดจอง-เข้าชมสูง พร้อมเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่า 5 พันลบ.

NCH คาดไตรมาส 2 ยังสดใสจากยอดจองสะสมไตรมาสก่อนและยอดผู้เข้าชมต่อเนื่อง ด้านปีนี้มีโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ รวมมูลค่า 5 พันลบ. หนุนรายได้ตามเป้า 2 พันล้านบาท


นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 คาดเป็นผลดีจากยอดจอง (Booking) ที่สะสมมาจากไตรมาส 1/2564 ประกอบกับยอดผู้เข้าชม (Walk) ยังอยู่ในระดับดี เนื่องจากบริษัทฯได้ทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า แต่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยบริษัทฯได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 จากกำลังซื้อที่ลดลงประกอบกับเรื่องการยื่นกู้ที่สามารถดำเนินการได้ช้าลงตั้งแต่เดือนเมษายนต่อเนื่องมาถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าในเดือนมิถุนายนสถานการณ์น่าจะปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจนในไตรมาส 4/2564

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งหมด 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,900 ล้านบาท ขายแล้ว 5,956 ล้านบาท มีโครงการพร้อมโอน (Inventory) มูลค่ารวม 2,944 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่รับรู้ไปแล้วในไตรมาส 1/2564 กว่า 890 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 494 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 2-3/2564 นี้

สำหรับในปี 2564 บริษัทฯมีโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ รวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยเปิดดำเนินการแล้ว 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท คือโครงการ Baan Fha Loft และโครงการ Baan Fha Time และในเดือนมิถุนายนนี้จะเปิดตัวโครงการ Baan Fha Greenery Loft ที่พัทยา มูลค่า 320 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 3/2564 จะเปิดอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท คือโครงการ NC On Green Charm 2 และโครงการ NC On Green Palm Park 2 นอกจากนี้อีก 2 โครงการที่เหลือจะทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3-4/2564

นอกจากนี้การเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการจะส่งผลให้บริษัทฯสามารถทำตามเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2564 สามารถทำรายได้แล้ว 44.54% และยังคงเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปีอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2564 บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้แล้ว 35.37%

ส่วนศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพทั้ง 3 แห่ง ลูกค้าได้มีการติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้ารับบริการจำนวนมาก เนื่องจากเทรนด์เรื่องสุขภาพกำลังมาแรง ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนด้านสุขภาพร่วมกับทางบริษัทฯ ได้ทำการติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นความคืบหน้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการวางแผนขยายธุรกิจเชิงรุกด้วยตนเองในช่วงครึ่งปีหลังด้วย ส่วนแนวทางการพัฒนาที่ดินในเชียงใหม่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯได้มองหาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพเพิ่มเติมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 บริษัทฯสามารถทำยอดขาย อยู่ที่ 1,131.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ 701.06 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 890.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ที่ 328.98 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากทาวน์เฮาส์ที่ 45.06% รายได้จากบ้านเดี่ยวอยู่ที่ 32.55% รายได้จากบ้านแฝดอยู่ที่ 20.16% และรายได้จากคอนโดอยู่ที่ 2.23%

ด้านกำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 256.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้นที่ 100.44 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 28.76% ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทฯในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 80.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 863% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ 8.35 ล้านบาท

Back to top button