เปิดอัพไซด์ 4 หุ้นเกษตร รับยอดส่งออก 4 เดือนแรกโตแรง หนุนผลงานฟื้น!
เปิดอัพไซด์ 4 หุ้นเกษตร แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวแรง หลังยอดส่งออกกับ FTA ช่วง 4 เดือนแรกโตแรง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาเป้าหมายของบริษัทฯจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในกลุ่มเกษตร และอาหาร เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการผลิต และเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออก ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ไทยส่งออกไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 6,097 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นถึง 22% ภายใต้สถานะการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยกับประเทศคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วย 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่า 108,826.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นสัดส่วน 63.84% ของการค้ารวมของไทย โดยเป็นการส่งออกไป 18 ประเทศคู่ FTA มูลค่า 52,627.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.45%
ทั้งนี้สินค้าเกษตร (กสิกรรม ปศุสัตว์และประมง) เป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและเป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากเป็นทั้งอาหารและวัตถุดิบ ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ไทยส่งออกไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 6,097 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 74.56% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย ตลาดที่มีการขยายตัว เช่น จีน เพิ่มขึ้น 46% อาเซียน เพิ่มขึ้น 4% ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 6% เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น+23% และอินเดีย เพิ่มขึ้น 71% เป็นต้น โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี อาทิ ยางพารา เพิ่มขึ้น 47% และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 49% ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมยาง พลังงานทดแทน และเป็นทั้งพืชอาหาร นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเกษตรกลุ่มอาหารอื่นๆ ที่ขยายตัวเช่นกัน อาทิ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผักสดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง เครื่องเทศและสมุนไพร และข้าวโพด
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกของไทยมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร สินค้ากลุ่มอาหาร และสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้เป็นวัตถุดิบในภาคการผลิต เนื่องจากปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า อีกทั้งความตกลงการค้าเสรียังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าไทยอีกด้วย
สำหรับบจ.ที่อยู่ในกลุ่มเกษตร และมีอัพไซด์สูงประกอบด้วย
ทั้งนี้พบว่า NER มีอัพไซด์สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ด้วยระดับ 19.53% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย 7.59 บาท และ STA มีอัพไซด์สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ด้วยระดับ 18.08% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย 53.43 บาท และ TWPC มีอัพไซด์สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ด้วยระดับ 5.56% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย 5.70 บาท
อย่างไรก็ตาม GFPT ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกินราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ คิดเป็นดาวไซด์ 4.55%
*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน