CPF ขยาย “เครดิตเทอม” 30 วัน ช่วยคู่ค้า SMEs ฝ่า “โควิด-19”
CPF เดินหน้าช่วยคู่ค้า SMEs ขยาย เครดิตเทอม 30 วัน ออกไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2564 หวังช่วยคู่ค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 6 พันราย ฝ่าวิกฤตโควิด-19
นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3 ได้สร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย CPF จึงได้ต่อเวลาการดำเนินโครงการให้เครดิตเทอมหรือการชำระค่าสินค้า ภายใน 30 วัน แก่คู่ค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีช่วยเติมทุนสำรองใช้หมุนเวียนในกิจการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก ผ่อนปรนภาระทางการเงิน รวมถึงรักษาการจ้างงานไว้ได้ เป็นกองหนุนให้คู่ค้ารายย่อยสามารถผ่านพ้นวิกฤติได้
“ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีความเสี่ยง และไม่แน่นอนสูงมาก การขยายเวลาโครงการ Faster Payment เป็นอีกแนวทางที่จะช่วย “พันธมิตรทางธุรกิจ” ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถรักษากิจการให้อยู่รอด และยังช่วยรักษาพนักงานและครอบครัวยังมีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ” นางสาวธิดารัตน์กล่าว
โดยปัจจุบัน CPF มีคู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยและรายบุคคล ประมาณ 6 พันราย ซึ่งเป็นต้นทางสำคัญของความต่อเนื่องในการส่งมอบอาหารคุณภาพปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ ด้วยโครงการที่ให้เครดิตเทอม 30 วันจะมีส่วนเสริมสภาพคล่องของบริษัทขนาดเล็กให้ดีขึ้นสามารถลดภาระต้นทุน ไม่ต้องกู้เงินจากแหล่งที่มีดอกเบี้ยสูงและช่วยให้บริษัทมีเงินทุนในการแสวงหาโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายอีกด้วย
นอกจากนี้ CPF ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับขีดความสามารถคู่ค้าธุรกิจเอสเอ็มอีให้สามารถเติบโตไปด้วยกัน พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูง ปลอดภัย ดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยในปีนี้ CPF ร่วมมือกับภาครัฐและหน่วยงานภายในองค์กรที่เกี่ยวข้อง จัดการอบรมถ่ายทอดความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อคู่ค้าเอสเอ็มอีได้พัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานสู่มาตรฐานสากล ทั้งเรื่องการบริหารจัดการด้านแรงงาน การเพิ่มความปลอดภัยและสุขอนามัยในกระบวนการผลิตและสถานที่ทำงาน การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาคู่ค้าเอสเอ็มอีจะเป็นประโยชน์ต่อการผลิตสินค้าซึ่งสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และตลาดหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ให้ความสำคัญกับห่วงโซ่อุปทานการผลิตอาหารที่รับผิดชอบต่อแรงงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้คู่ค้าเติบโตเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ขึ้น หรือยกระดับเป็นผู้ผลิตระดับประเทศได้ต่อไป