“อิสราเอล” จ่อยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย 15 มิ.ย.นี้ หลังสถานการณ์ “โควิด-19” คลี่คลาย
"อิสราเอล" จ่อยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร 15 มิ.ย.นี้ หลังสถานการณ์ "โควิด-19" คลี่คลาย
นายยูลี เอลเดนสไตน์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้ยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศลดลง โดยนายเอลเดนสไตน์ระบุว่า ข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในอาคารจะถูกยกเลิกเช่นกัน หากจำนวนผู้ป่วยในอนาคตไม่เพิ่มสูงเกินคาดการณ์
โดยคำสั่งดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ขั้นสุดท้ายที่ยังคงมีผลบังคับใช้ในอิสราเอล หลังจากมีการยกเลิกมาตรการขนานใหญ่ไปแล้ว อาทิ การจำกัดการรวมกลุ่ม การเว้นระยะห่างทางสังคม และแนวทางสุขอนามัย เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี อิสราเอลยังไม่ยกเลิกมาตรการเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศส่วนใหญ่ เช่น คำสั่งห้ามเดินทางเยือน 9 ประเทศ ข้อกำหนดการกักตัวของผู้โดยสารจากกลุ่มประเทศดังกล่าว และข้อกำหนดการตรวจโรคโควิด-19 สำหรับผู้โดยสารขาเข้าทุกคน
ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-15 ปี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. หลังเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในประเทศเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 โดยระยะแรกมุ่งฉีดให้บุคลากรการแพทย์ ผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ก่อนจะปรับลดช่วงอายุผู้ที่มีคุณสมบัติฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมคนอายุน้อยมากขึ้น ทำให้กลุ่มคนอายุ 16 ปีขึ้นไปเข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนด้วย