COLOR มั่นใจปีนี้พลิกเป็นกำไร เล็งจ่ายปันผล-ศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่
COLOR มั่นใจปีนี้พลิกเป็นกำไร เล็งจ่ายปันผล-ศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่
นายขวัญชัย ณัฎฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปีนี้ผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไร หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 23.97 ล้านบาท เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 65-70% และมีบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลิตเต็มกำลังแล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา แต่เน้นการพัฒนาประสิทธิภาพสินค้าที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น)สูง ส่งผลอัตรากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.39% ซึ่งบริษัทตั้งเป้าทั้งปีจะรักษาระดับดังกล่าวไว้
ขณะที่บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 4-5% หรือเติบโตไม่น้อยกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ประเทศ จากปีก่อนที่มีรายได้ 806.98 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้รายได้เติบโตไปแล้วถึง 8% หรือทำรายได้ราว 444.40 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ที่ช่วยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทฯคาดว่าสัดส่วนการส่งออกของปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 21% จากปีก่อน 18% เนื่องจากลูกค้าเดิมที่เคยชะลอคำสั่งซื้อเริ่มกลับมาส่งคำสั่งใหม่ เนื่องจากราคาของปิโตเครมีและพลาสติกในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบเริ่มแกว่งแคบลง ทำให้สามารถคาดการณ์ทิศทางราคาสินค้าได้แม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าเริ่มสั่งสินค้าเพื่อสต็อกมากขึ้นด้วย
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/58 คาดว่าทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/58 แต่จะดีกว่าไตรมาส 3/57 ที่มีผลขาดทุน
ส่วนแนวโน้มในปีหน้า นายขวัญชัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 59 จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอการยืนยันคำสั่งซื้อจากลูกค้าอีก 2-3 ราย หากได้ในส่วนนี้เข้ามาก็จะทำให้บริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมพลาสติกก็ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าจากออสเตรเลียเพื่อส่งสินค้าในอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับก่อสร้าง โดยปัจจุบันลูกค้าออสเตรเลียกำลังตรวจสอบสินค้าและทดสอบการใช้งานจริงว่าพึงพอใจมากแค่ไหน และหากผ่านการตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะทำให้ COLOR สามารถส่งสินค้าไปยังยุโรปได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดจะได้สิทธิในการส่งสินค้าในช่วงปี 59
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อเข้ามาชดเชยและเติมเต็ม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 1/59 และเตรียมศึกษาการเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบันอยู่ที่ 4 หมื่นตัน/ปี ซึ่งจะสามารถรองรับการเติบโตของบริษัทฯได้ถึงปี 60 คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้ถึงกลางปี 59
สำหรับเงินลงทุนในการขยายกิจการ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น คาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 300-400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯยังมีเครดิตจากสถาบันการเงินเพียงพอ โดยปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.5 เท่า ในขณะที่บริษัทแม่ก็ยังมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง ซึ่งหากโครงการดังกล่าวมีความเหมาะสมก็เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี และบริษัทยังเปิดโอกาสให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตใหม่ๆให้กับบริษัทเข้ามาเป็นพันธมิตร ขณะที่บริษัทก็มีความพร้อมทั้งการร่วมลงทุนและการเข้าซื้อกิจการ