KUN แรลลี่ยาว! บวกอีก 8% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นผลงาน Q2 โตต่อเนื่อง!

KUN แรลลี่ยาว! บวกอีก 8% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นผลงาน Q2 โตต่อเนื่อง! ตุนแบ็กล็อก 350 ล้าน มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 10%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15 มิ.ย.2564)บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN ณ เวลา 10.47 น. อยู่ที่ระดับ 3.18 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 8.16% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 140.75 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2562

โดยก่อนหน้านี้นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUN เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2564 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการส่งมอบโครงการได้ต่อเนื่องตามเป้าหมาย

โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2564 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 350 ล้านบาท จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2-3/2564 ทั้งหมด และปัจจุบันบริษัทเปิดดำเนินการให้ลูกค้าเข้าชมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างยอดขายหนุนการรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2564

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยยังคงเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตที่ประมาณ 10-15% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 803.79 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2564 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 190.99 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 17% ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของรายได้รวมในช่วงไตรมาส 1/2564 ทำได้ดีกว่าเป้าหมายทั้งปีที่บริษัทตั้งไว้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี

สำหรับรายได้รวมในไตรมาส 1/2564 ที่เติบโตขึ้น มาจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบ 5 โครงการหลัก ที่อยู่ระหว่างการขาย ประกอบด้วย โครงการในโซนบางบัวทอง เช่น โครงการ คุณาลัย จอย, โครงการ คุณาลัย พรีม, และโครงการ คุณาลัย บีกินส์ 2 เป็นต้น อีกทั้ง ยังมีโครงการ คุณาลัย จอย ออน 314 ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่บริษัทเริ่มลงทุนขยายตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน 5 โครงการ อยู่ระหว่างการขายมีมูลค่ารวมประมาณ 2,300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง

นางประวีรัตน์ กล่าวอีกว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการ คุณาลัย พาร์โก้ มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยวรวมจำนวน 96 ยูนิต ระดับราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาทต่อยูนิต เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่ใกล้ปิดการขาย สำหรับโครงการดังกล่าว จะพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ที่อยู่อาศัยรวมกัน 3 เจเนอเรชั่น (Gen) ในบ้านหลังเดียว และลูกค้าที่ต้องการบ้านที่ให้เนื้อที่รอบบ้านและพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจและกระแสตอบรับที่ดี

ส่วนแผนการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทิศที่ 3 ของกรุงเทพฯ ล่าสุดมีความชัดเจนในการลงทุนมากขึ้น โดยจะลงทุนในโซนทิศใต้ของกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขออนุมัติลงทุนจากผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ และเบื้องต้นคาดว่าสามารถเปิดขายโครงการได้ในช่วงไตรมาส 1/2565 และจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2565 นอกจากนี้ เชื่อว่าภายในปี 2566 บริษัทจะสามารถขยายการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครบ 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ

“เราเชื่อว่าสามารถบริหารจัดการ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดี ทั้งการดูแลด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยของทั้งลูกค้าและพนักงาน เพื่อให้ทุกส่วนผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ในส่วนแรงงาน บริษัทมีทีมก่อสร้าง 4 รายหลัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย และจากการมีเป้าหมายเดียวกัน คือเพื่อความอยู่รอด ทุกส่วนก็มีการดูแลตัวเองอย่างเข้มงวด” นางประวีรัตน์ กล่าว

Back to top button