PSTC บวกแรง 8% นิวไฮรอบ 1 ปี 3 เดือน ลุ้นปีนี้รายได้โต 30% ตุนแบ็กล็อกแน่นกว่า 2 พันลบ.

PSTC บวกแรง 8% โดย ณ เวลา 11.40 น. อยู่ที่ระดับ 2.60 บาท บวก 0.20 บาท นิวไฮรอบ 1 ปี 3 เดือน ลุ้นปีนี้รายได้โต 30% ตุนแบ็กล็อกแน่นกว่า 2 พันลบ.


ผู้อสื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(16 มิ.ย.2564) บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ณ เวลา 11.40 น. อยู่ที่ระดับ 2.60 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 8.33% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 521.02 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 1 ปี 3 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.75 บาท เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2563

สำหรับ PSTC รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 สิ้นสุด 31 มี.ค.2564 มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 922% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 5.20 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น จึงคาดการณ์ว่าในปีนี้ผลประกอบการจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรจากปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,005.36 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายกัมพล ตติยกวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSTC เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2564 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นของธุรกิจก่อสร้าง (EPC) ในกลุ่ม Power Solution และกลุ่มธุรกิจ Oil & Gas

โดยล่าสุดกลุ่มบริษัทชนะการประมูลงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท คาดจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2564 และน่าจะรับรู้รายได้ในปี 2564

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จะเติบโตกว่า 1,000% จากการจำหน่าย LNG ให้แก่ กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่อยู่นอกแนวท่อก๊าซธรรมชาติ ซึ่ง LNG ยังเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่สะอาดสามารถใช้ทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม LPG และน้ำมันเตาที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี รวมถึงขยายการจำหน่ายไปยังภาคขนส่งด้วย ซึ่ง LNG สามารถทดแทนเชื้อเพลิง CNG สำหรับยานยนต์ได้ จะทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนค่าขนส่งได้ประมาณ 20%

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ LNG คือ งานออกแบบและก่อสร้างดูแลซ่อมบำรุงสถานี LNG งานดัดแปลงเครื่องยนต์จาก CNG เป็น LNG ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทสามารถรับรู้รายได้และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้อย่างยั่งยืน

“สำหรับแผนการลงทุนในปี 2564 ได้วางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 10-15% ซึ่งจะเป็นการลงทุนโดยการร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Oil & Gas Logistics เพิ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2564 และลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า Solar ที่ดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงลงทุนในรูปแบบ Private PPA ด้วย” นายกัมพล กล่าว

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทกำลังศึกษาการเข้าไปซื้อกิจการ หรือลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และมีรายได้ยั่งยืน เช่น ธุรกิจถุงมือยาง ธุรกิจผลิต Solar panel เพื่อการส่งออก เป็นต้น

Back to top button