ดอลล์อ่อนจากแรงขายทำกำไร ขณะตลาดรอถ้อยแถลงประธานเฟด
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจากการทะยานขึ้นของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของตลาดสหรัฐและทั่วโลก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1220 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1208 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5237 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5262 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.03 เยน จาก 120.14 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9761 ฟรังก์ จาก 0.9767 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7036 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6999 ดอลลาร์ ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนในตลาดสกุลเงินมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่ร่วงลงทั่วโลกเมื่อวานนี้ ซึ่งได้รับแรงกดดันจากดิ่งลงของหุ้นกลุ่มยานยนต์ ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องการเลี่ยงความเสี่ยง
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวลงในเดือนส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของสหรัฐ รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.5%
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่เมืองแอมเฮิร์สท์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในหัวข้อ “พลวัตเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน” หรือ ” Inflation Dynamics and Monetary Policy” โดยมีการคาดการณ์กันว่านางเยลเลนอาจจะส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้