PSL วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% รับเข้าคำนวณ SET100 รอบใหม่-ลุ้นปีนี้พลิกกำไร 1.5 พันลบ.

PSL วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% รับเข้าคำนวณ SET100 รอบใหม่-ค่าระวางเรือพุ่ง ลุ้นปีนี้พลิกกำไร 1.5 พันลบ. แนะซื้อเป้า 24 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17มิ.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ณ เวลา 12.08 น. อยู่ที่ระดับ 21.90 บาท บวก 1.40 บาท หรือ 6.83% สูงสุดที่ระดับ 22.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท

โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2564)

สำหรับดัชนี SET50 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE), บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) และ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT)

ส่วนดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 9 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI), บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF), บมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL), บมจ. โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL), บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER), บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT), บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) และ บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN)

ส่วนบล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะ”เก็งกำไรช่วงสั้น”กลุ่มเรือเทกอง อาทิ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA), บมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง(PSL) โดยมีแรงหนุนจาก ล่าสุด ดัชนี Baltic DryIndex (BDI) หรือ ดัชนีค่าระวางเรือ ปรับเพิ่มขึ้นแรง 2.75% และนับตั้งแต่ต้นเดือน-ปัจจุบันขึ้นแรงราว 13.4% ล่าสุดอยู่ที่ 3025 จุด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PSL ที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท อิง PER ปี 2564 ที่ 25 เท่า โดยชอบหุ้น PSL จาก 2 เหตุผลหลัก คือ 1) แนวโน้มผลการดำเนินงานที่พลิกกลับมามีกำไรและเติบโตดีมากในปี 2564

2) สัดส่วนรายได้ 99% มาจากธุรกิจเดินเรือและสัดส่วนของกองเรือเพียง 17% ได้ทำสัญญา fixed contract ระยะเกิน 1 ปีซึ่งจะทำให้ PSL ได้ประโยชน์โดยตรงจากดัชนี Baltic Supramax Index (BSI) ที่ปรับขึ้นมาทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปี อย่างต่อเนื่อง หนุนโดย global demand ที่คาดโต 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน สูงกว่า global supply ของกองเรือที่จะโตเพียง 1.5% เมื่อเทียบจากปีก่อนในปี 2564 (order book ต่ำสุดในทศวรรษ)

ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิปี 2564 จะพลิกกลับมากำไรที่ 1.57 พันล้านบาท (จากขาดทุน 1.30 พันล้านบาทในปี 2563) จากรายได้เติบโต 67% เมื่อเทียบจากปีก่อน หนุนโดยค่าระวางที่ปรับตัวขึ้น 2) GPM คาดปรับตัวดีขึ้นเป็น 39.1% (ใกล้เคียงปี 2553 ที่ดัชนี BSI Index อยู่ที่ระดับ 2,000-3,000 จุด)

Back to top button