GPI พุ่งกระฉูด 20% นิวไฮรอบ 2 ปี รับแผนขยายงานต่อเนื่อง! ลุ้นกำไรปีนี้โตแรง
GPI พุ่งกระฉูด 20% โดย ณ เวลา 15.55 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 2.24 บาท บวก 0.37 บาท นิวไฮรอบ 2 ปี รับแผนขยายงานต่อเนื่อง! ลุ้นกำไรปีนี้โตแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(18 มิ.ย.64)ราคาหุ้น บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ณ เวลา 15.55 น. อยู่ที่ระดับ 2.24 บาท บวก 0.37 บาท หรือ 19.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 121.00 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 2 ปี 2 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.24 บาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2562
สำหรับ GPI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 มีกำไรสุทธิ 98.27 ล้านบาท เทียบไตรมาส 1/2563 ขาดทุนสุทธิ 61.67 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้กลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการจัดงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 44 และการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายบริษัทสามารถทําได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทําให้อัตราผลกําไรเป็นไปตามแผนธุรกิจของบริษัท
อย่างไรก็ตามคาดว่าผลการดำเนินงานปี 2564 จะโดดเด่นจากปี 2563 อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากไตรมาส 1/2564 พบว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 98.27 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรทั้งปี 2563 อยู่ที่ 34.09 ล้านบาท ดังตารางประกอบ
ด้านนายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ GPI เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจในวงกว้าง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะขยายการรับงานและมองโอกาสขยายธุรกิจใหม่ที่จะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นสร้างรายได้จากธุรกิจเดิมและมองโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจที่น่าสนใจเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ล่าสุดกลุ่มธุรกิจงานรับจ้างพิมพ์ได้รับงานพิมพ์ใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการและทยอยส่งมอบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ของบริษัทฯ
นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มองโอกาสนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ ต่อยอดสู่ธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
ล่าสุดได้รุกเข้าสู่ธุรกิจซื้อขายรถสะสมซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด เช่น รถคลาสสิก, รถหายาก เป็นต้น โดยบริษัทฯ ซื้อรถดังกล่าวมาปรับแต่งให้อยู่ในสภาพดีและจำหน่ายให้แก่กลุ่มคนที่มีความชื่นชอบ ปัจจุบันได้ลงทุนซื้อรถสะสมแล้ว 6-7 คัน และอยู่ระหว่างดำเนินการปรับแต่งใหม่
ขณะเดียวกัน ได้ขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจซื้อขายและปรับแต่งรถแข่ง โดยลงทุนซื้อรถเพื่อนำมาปรับแต่งเป็นรถแข่ง ปัจจุบันมีรถที่อยู่ระหว่างดำเนินการกว่า 20 คัน จากที่มีผู้สนใจจองแล้วประมาณ 30 คัน นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจดังกล่าวสู่รถประเภทอื่นๆ เช่น การตกแต่งรถแคมป์ปิ้ง เป็นต้น
“แม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่บริษัทมองโอกาสลงทุนเพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่ากลุ่มคนที่เล่นรถสะสม รถแข่ง จัดเป็นลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงและแทบไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จึงยังมีความต้องการซื้อรถกลุ่มดังกล่าวและพร้อมตัดสินใจซื้อทันที หากเป็นรุ่นที่ชื่นชอบหรือกำลังเป็นที่นิยม”นายพีระพงศ์ กล่าว