HFT มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15% รับออเดอร์ทะลัก! ทุ่มงบซื้อเครื่องจักใหม่ หนุนธุรกิจโตต่อ
HFT มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 15% รับออเดอร์ทะลัก! ทุ่มงบซื้อเครื่องจักใหม่ หนุนธุรกิจโตต่อเนื่อง
นายจวง จื้อ เหยา กรรมการ บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT นำเสนอข้อมูลแผนธุรกิจ และแนวโน้มผลประกอบการ ไตรมาส 2/2564 และธุรกิจช่วงที่เหลือของปี 2564 และแผนธุรกิจในอนาคต ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2564
สำหรับ HFT ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางใน ยางนอก และรถจักรยาน ดังนี้ ยางสำหรับรถจักรยานทั่วไป เช่น จักรยานเสือภูเขา รถเข็นสำหรับคนพิการ เป็นต้น,ยางสำหรับรถจักรยานยนต์ เช่น จักรยานยนต์ทั่วไป รถจักรยานยนต์ความเร็วสูง สกูตเตอร์ โมโตครอส,ยางสำหรับรถขนส่งขนาดเล็กเช่น รถเข็น รถยก รถแทรคเตอร์ รถตุ๊กตุ๊ก รถที่ใช้ในการเกษตร รถกอล์ฟ,ยางรถที่ใช้วิ่งชายหาด-ไต่เขา,รถจักรยานเสือหมอบ รถจักรยานเสือภูเขา
โดยบริษัทคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 จะดีขึ้นจากปีก่อน และคาดกำไรในปีนี้ดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 412 ล้านบาท และมั่นใจปีนี้รายได้บริษัทจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโต 15% จากปีก่อนที่มี 2.7 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีออเดอร์ทั้งปีแล้ว และเชื่อว่าในไตรมาส 3-4 ปีนี้น่าจะดำเนินการได้ตามแผน แต่ก็ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่อาจเกิดการติดก็อาจจะเกิดปัญหาการผลิต
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2564 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ไม่เกิน 200 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายในเครื่องจักรใหม่ ส่วนในปี 2565 ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 500-600 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายในเครื่องจักรเช่นเดียวกัน โดยบริษัทจะได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งจะเป็นโอกาสให้บริษัทได้ใช้เครื่องจักรคุณภาพสูง เพื่อมาช่วยให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นและไม่ต้องขยายโรงงานใหม่
ส่วนมาตรการควบคุมโควิดภายในโรงงานบริษัทบริษัทได้วางมาตรการป้องกันภายในอย่างเข้มงวด โดยได้จัดให้มีหน้ากากอนามัยเพื่อเปลี่ยนให้กับพนักงานทุกวัน รวมทั้ง เจล,แอลกอฮอล์ เพื่อไว้สำหรับล้างมือ นอกจากนี้ก็จะมีการเช็ดทำความสะอาดทั้งประตูห้องน้ำหรือทุกที่ที่มีโอกาสแพร่เชื้อในทุก ๆ 2 ชั่วโมง รวมทั้งได้มีการจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับพนักงานกว่า 2 พันคน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับวัคซีนเพราะถูกเลื่อนออกไป และบริษัทได้ยื่นความจำนงวัคซีนซิโนฟาร์มด้วย
ดังนั้นจึงคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของบริษัทในปีนี้และปีหน้าจะเดินได้ตามเป้าหมายโต 15% นอกจากนี้ บริษัทยังมีสินค้าใหม่ในปีนี้ด้วย โดยปัจจุบันมีอัตราการใช้กำลังการผลิตถึง 95%
อีกทั้งบริษัทมองว่าทิศทางธุรกิจในในในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดจะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่บริษัทได้ขยายเครื่องจักรใหม่ โดยเฉพาะตลาดจักรยานที่เติบโตขึ้นได้ต่อเนื่องทุกๆปี
ส่วนธุรกิจกัญชาและกัญชงขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษากับพันมิตรและต้องศึกษากฎหมายให้ดีก่อน เนื่องจากกฎหมายยังไม่มีความชัดเจนรอให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยดำเนินการต่อ ขณะที่แผนธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็ยังคงเดินหน้าซึ่งจะเป็นธุรกิจอนาคตของบริษัท