DOD บวก 7% ยิ้มรับ “เมล็ดพันธุ์กัญชง” ถึงมือเจ้าแรก ก.ค.นี้ โบรกฯชูเป้า 17 บ.
DOD ราคาวิ่ง 7% แตะ 14.50 บ. เด้งรับข่าวดีบริษัทนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงเจ้าแรกในตลาดฯ โดยรับเดือน ก.ค. นี้ ขณะโบรกฯยังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้ที่ 390 ลบ. แนะ “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 17 บ. มี Upside 17.24%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (22 มิ.ย.64) ราคาหุ้น บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ณ เวลา 11.52 น. อยู่ที่ระดับ 14.50 บาท บวกไป0.90 บาท หรือขึ้นไป 6.62% โดยทำจุดสูงสุดที่ 14.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 13.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 501.48 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 มิถุนายน 2564 ) ว่าจากการสืบค้นข้อมูลใบอนุญาตของ อย. เมื่อวานนี้ 21 มิ.ย. 2564 ทางฝ่ายวิจัยพบว่ามีผู้ได้รับใบอนุญาตดังนี้ 1.ให้นำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง 39 ใบอนุญาต (DOD ได้รับในบริษัท สยาม เฮอเบิลเทค จำกัด (บริษัทย่อย)) 2.ใบอนุญาตปลูก 17 ใบ รวมทุกวัตถุประสงค์ (แบ่งเป็นในนามเอกชน 10 ใบ, วิสาหกิจชุมชน 3 ใบ และหน่วยงานภาครัฐ 4 ใบ) 3.ใบอนุญาตสกัด ปัจจุบันได้รับอนุญาตเพียง 1 ราย คือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนบริษัทเอกชนยังไม่มีใครได้รับใบอนุญาตสกัด และ 4.ใบอนุญาตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ มีได้รับอนุญาตเพียง 1 รายคือ มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ทั้งนี้ DOD เตรียมรับเมล็ดพันธุ์กัญชงนำเข้าล็อตแรก 6,000 เมล็ด ภายในต้นเดือน ก.ค. นี้ซึ่งเป็นการนำเข้าพันธุ์จากสหรัฐฯทั้งหมด รวม 10 สายพันธุ์ แบ่งเป็น 8 พันธุ์ที่ให้ CBD และ 2 พันธุ์ที่ให้ Hemp Seed Oil ซึ่งในเฟสแรกจะใช้เองทั้งหมดไม่มีการจำหน่ายให้ภายนอก ล่าสุดมีเกษตรกรเครือข่ายของบริษัทได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชงแล้ว และพร้อมที่จะลงมือปลูกภายใน ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลาของกรมวิชาการเกษตรจะทำให้ได้ผลผลิตทันในไตรมาส 4/2564 ระหว่างนี้ DODได้อยู่ระหว่างขออนุญาตโรงสกัดน้ำมันก่อน (สำหรับโรงสกัดแห่งแรกที่มีอยู่ปัจจุบัน)
อีกทั้งได้มีการผลิต Hemp Seed Oil ตัวอย่างเพื่อส่งให้กับ อย. และลูกค้าหลายรายพิจารณาสูตรแล้ว (ได้วัตถุดิบจากม.แม่โจ้) และเตรียมขออนุญาตโรงสกัด CBD (จะขอสำหรับโรงงานแห่งที่ 2 ที่อยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรใหม่) คาดจะได้ทันในครึ่งปีหลัง 2564 และมีความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นสินค้าแรกในกลุ่ม Hemp Seed Oil ก่อนภายในไตรมาส 4/2564 ส่วนสินค้าที่มีส่วนผสมของ CBD คาดจะเห็นในไตรมาส 1/2565
สำหรับอาหารเสริมยังคงประคองผลประกอบการคาดจะเร่งตัวเมื่อรวมกัญชงได้โดยระยะสั้นแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส2/2564อาจทำได้ราว 90 ล้านบาท ดีขึ้นจาก 66 ล้านบาทในไตรมาส 2/2563 แต่คาดลดลงจาก 136 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2564 เพราะรายได้ธุรกิจขายตรงและเครื่องสำอางลดลงมากหลังเจอ COVID-19 รอบ 3 และรายได้หลักจากรับจ้างผลิตคอลลาเจนอ่อนตัวลงในเดือน เม.ย.-พ.ค. 2564 แต่จะกลับมาดีขึ้นในเดือน มิ.ย. 2564
โดยภายหลังลูกค้ากลับมาทำโปรโมชั่นที่มากขึ้น ซึ่งมองว่าแนวโน้มรายได้และกำไรของธุรกิจเดิมอาจยังไม่ตื่นเต้น แม้หากกำไรไตรมาส 2/2564 เป็นไปตามคาด DOD จะมีกำไรปกติของครึ่งปีแรก 2564 อยู่ที่ 226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็น 58% ของประมาณการทั้งปี นั่นหมายถึงกำไรครึ่งปีหลังของปี 2564 ทั้งนี้ทำให้ทางฝ่ายวิจัยคาดไว้ไตรมาสละ 80 ล้านบาท
ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2564ไว้ที่ 390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และอยู่ระหว่างทบทวนกำไรปี 2565 ด้วยการรวมกัญชงไว้ในประมาณการจากปัจจุบันที่คาดไว้ 444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ยังคงราคาเป้าหมายปี2564ไว้ที่ 17 บาท (อิง PE เดิม 18 เท่า) ยังมี Upside 17.24% (เทียบกับราคาวันนี้ที่ระดับ 14.50บาท)คงคำแนะนำ “ซื้อ”