TPLAS พุ่งกระฉูด 23% “ออลไทม์ไฮ” ปักธงรายได้ปีนี้โต 10% เดินหน้าศึกษาโมเดลธุรกิจใหม่
TPLAS พุ่งกระฉูด 23% “ออลไทม์ไฮ” ปักธงรายได้ปีนี้โต 10% เดินหน้าศึกษาโมเดลธุรกิจใหม่-เพิ่มกำลังผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษเพื่อผลักดันการเติบโตรายได้-กำไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(23 มิ.ย.64) ราคาหุ้นบริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ณ เวลา 12.01 น. อยู่ที่ระดับ 2.98 บาท บวก 0.56 บาท หรือ 23.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 225.91 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2561
โดยนายอภิรัตน์ ธีระรุจินนท์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ TPLAS เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 469.71 ล้านบาท หลังจากในไตรมาส 1/2564 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 127.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.72 % จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 109.22 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาสินค้าเฉลี่ยและปริมาณการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.36% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.10 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างระหว่างราคาขายสินค้าและต้นทุนสินค้า
โดยการเติบโตของรายได้ในปี 2564 จะมาจาก 3 โครงการ ประกอบด้วย
1.โครงการบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษบรรจุอาหาร ซึ่งมีแผนพัฒนาระยะยาว เพื่อเพิ่มรายได้และกำไร รวมทั้งกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในไตรมาส 1/2564 ได้ลงทุนเครื่องจักรใหม่ มูลค่า 10 ล้านบาท ได้แก่ เครื่องจักรกล่องข้าวอีก 6 เครื่อง จากเดิมมีอยู่ 4 เครื่อง รวมเป็น 10 เครื่อง ทำให้กำลังการผลิตอยู่ที่ 31 ล้านใบ/ปี จากเดิมอยู่ที่ 12 ล้านใบ/ปี เพื่อรองรับการเติบโตได้อีกมาก
นอกจากนี้บริษัทได้ลงทุนเครื่องจักรชามข้าว 1 เครื่อง กำลังการผลิตอยู่ที่ 10 ล้านใบ/ปี มีแผนการพัฒนาตามความต้องการของลูกค้า หากมีความต้องการสูงจะมีการลงทุนเพิ่มเติม คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 3.5 ปี อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
2.โครงการปฏิรูปโรงงานให้เป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงในการพึ่งพาแรงงาน และเพิ่มกำลังการผลิต โดยในไตรมาส 1/2564 ได้ลงทุนเครื่องบรรจุใหม่อีก 2 เครื่อง มูลค่า 5.6 ล้านบาท ซึ่งเครื่องจะเข้ามาในไตรมาส 2/2564 จากเดิมมีอยู่ 2 เครื่อง รวมเป็น 4 เครื่อง รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาเครื่องบรรจุภัณฑ์ถุงใส และ
3.โครงการศึกษาโมเดลธุรกิจ ใหม่ ๆ ที่มีโอกาสมากขึ้น และสร้างผลประกอบการที่ดีให้บริษัท โดยได้ศึกษาเครื่องต่าง ๆ ในการสร้างผลประกอบการ และเครื่องมือทางการเงินในการระดมทุน สำหรับปี 2564 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 28 ล้านบาท หลัก ๆ ใช้สำหรับลงทุนเครื่องจักรกล่องข้าวเป็นหลัก
ส่วนไตรมาส 2/2564 แนวโน้มตลาดและสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีช่วงที่ชะลอตัวเล็กน้อย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลให้ช่องทางการขายของบริษัทลดลง จากการปิดตลาด ซึ่งบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการติดต่อลูกค้า เป็นช่องทางออนไลน์มากขึ้น อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้ากลับบ้านมากขึ้น ส่งผลต่อ ยอดขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น