EGCO คาดกำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน ตั้งเป้าปี 62 มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 5,000MW
EGCO มองกำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 7.67 พันลบ. หลังรวมกำไรพิเศษจากการขายหุ้น “เอ็กคอมธารา” คาดโรงไฟฟ้าขนอม 930MW จะเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ 19 มิ.ย.59 อีกทั้งยังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มกำลังผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินมาซินลอคในฟิลิปปินส์อีก 300MW เผยจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุนราว 5,000MW ในปี 62
นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรสุทธิปีนี้จะใกล้เคียงปีก่อนที่ 7,666.98 ล้านบาท หลังรวมบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด ราว 600-700 ล้านบาท ในไตรมาส 3/58 แล้ว
ขณะที่ครึ่งหลังของปีนี้ทั้งรายได้และกำไรจะมากกว่าครึ่งปีแรก ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงไฟฟ้าไปแล้วในไตรมาสแรก ขณะที่จะเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าทวายในเมียนมาร์ ร่วมกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ต่อไป
“ปีนี้กำไรใกล้เคียงปีก่อนเพราะปีนี้โรงไฟฟ้าระยองหมดอายุไป แต่ได้บริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด (NED) ที่จังหวัดลพบุรี มาเพิ่ม จากเดิมที่ถือหุ้น 1 ใน 3 เพิ่มเป็น 2 ใน 3 ของกำลังการผลิตรวม 63 เมกะวัตต์ก็จะรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และปลายปี 57 เข้าซื้อกิจการมาซินลอคในฟิลิปปินส์มา ปีก่อนเริ่ม start ก็จะมา effect รับรู้ผลประกอบการในปี 58 ก็ชดเชยกันได้ ที่จริงกำไรควรจะมากกว่าแต่มีซ่อมใหญ่ต้นปี”นายสหัส กล่าว
ขณะนี้มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 6-7 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 1,700 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะทยอยจ่ายไฟ คือโรงไฟฟ้าขนอม 930 เมกะวัตต์ คาดจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) 19 มิ.ย.59 ส่วนที่เหลือ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) จำนวน 3 โรง ขนาด 120 เมกะวัตต์/โรง,โรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่จ.ชัยภูมิ 90 เมกะวัตต์,โรงไฟฟ้าในต่างประเทศ เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ขนาดกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่ง EGCO ถือหุ้น 12.5% และโรงไฟฟ้าถ่านหินซานบัวนาเวนทูรา (SBPL) ในเมืองเคซอนของฟิลิปปินส์ 500 เมกะวัตต์ EGCO ถือหุ้นราว 50% ซึ่งจะเริ่มผลิตไฟฟ้าในปี 62
โดยการดำเนินการตามแผนดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนเพิ่มเป็นราว 5,000 เมกะวัตต์ในปี 62 จากปัจจุบัน มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ 23 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 3,746 เมกะวัตต์
ส่วนการผลิตไฟฟ้าโครงการทวาย ในเมียนมาร์ ที่ดำเนินการร่วมกับ ITD นั้น ก็จะเดินหน้าโครงการต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้คาดว่าบริษัทอาจจะถอนลงทุนในโครงการดังกล่าว เพราะมีความเสี่ยงจากปริมาณลูกค้าไม่ชัดเจน แต่ล่าสุดทาง ITD จะเดินสายไฟฟ้าเพื่อนำไฟฟ้าจากไทยเข้าไปใช้ในพื้นที่ก่อน เมื่อมีลูกค้าชัดเจนแล้วก็จะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ตามแผน
“ช่วงแรก ITD ขอไฟ 10-20 เมกะวัตต์เดินสายจากไทยไป แต่ถ้าโรงงานเริ่มเกิดเราก็จะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าโครงการก๊าซฯขนาด 370 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะขึ้นในอีก 2 ปีและคาด COD ต้นปี 2019 เงินลงทุนราว 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ITD ถือ 50% EGCO ถือ 50% โดยเป็นสัญญาว่าจะขายไปตามสัมปทานในนิคมฯทวาย สัมปทาน 50 ปี จากนั้นต่อสัญญาได้”นายสหัส กล่าว
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มกำลังผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินมาซินลอคในฟิลลิปปินส์อีก 300 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้เริ่มหาลูกค้าได้ครึ่งหนึ่งแล้ว และเตรียมหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 59 และ COD ได้ปี 62
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมองหาการลงทุนเพิ่มเติมในอาเซียนและเอเชีย โดยเห็นว่าประเทศที่มีศักยภาพ ได้แก่ ฟิลิปปินส์,อินโดนีเซีย ลาว เมียนมาร์ และจีน อีกหลายโครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าเก่าในเกาะปาปัวนิวกินีจากเจ้าของเดิมขนาด 60 เมกะวัตต์ แต่สามารถขยายได้ถึง 200 เมกะวัตต์ ซึ่งหากมีการลงทุนจะลงทุนร่วมทุนกับกลุ่มมารูเบนิ
สำหรับปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนรวมไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยใช้ไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท สำหรับซื้อกิจการ ก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม และโครงการไซยะบุรี
สำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพี เฟส 2 ขนาด 1000 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 7 หมื่นล้านบาท ที่จ.ระยองนั้น อยู่ระหว่างรอให้ภาครัฐเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่(IPP) ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลทันที โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และผู้รับเหมาก่อสร้าง (EPC)