SO เด้งกลับ 2% ลุ้นครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้น! “เปิดประเทศ” หนุน ลุย M&A–พัฒนาแพลตฟอร์ม

SO เด้งกลับ 2% รับผู้บริหารแย้มครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้น มองเปิดประเทศหลังโควิดคลี่คลายหนุน ลุยซื้อกิจการ - พัฒนาแพลตฟอร์มตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (25 มิ.ย.64) ราคาหุ้นบริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ล่าสุด ณ เวลา 14.37 น. อยู่ที่ระดับ 10.80 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือ 1.89% โดยทำจุดสูงสุดที่ 11.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 10.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.50 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น SO ที่ปรับขึ้นเป็นการขานรับหลังจาก นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ SO เปิดเผยว่า รายได้จากธุรกิจจัดหาบุคลากรจะฟื้นตัวในช่วงที่การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายและสามารถเปิดประเทศได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้รายได้จากค่าทำงานล่วงเวลา (OT) ของพนักงานกลับมาประมาณ 10-15 ล้านบาท หลังจากที่รายได้ OT หายไปในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ SO ยังคงให้ความสำคัญกับการซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งตั้งเป้าหมายไปที่ Outsource Company, Software Enterprise และ Professional Training ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพูดคุย 2-3 ดีล โดยมีดีลที่เป็นบริษัทใหญ่ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจอยู่ในหลายประเทศทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาค่อนข้างนาน

สำหรับแพลตฟอร์ม DIGIDOCS ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการเอกสารออนไลน์เพื่อการทำงานเอกสารที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย หลังจากที่ติดตั้งให้ลูกค้าไปแล้วได้รับกระแสตอบรับที่ดี โดยปัจจุบัน SO จึงจะปรับปรุงแพลตฟอร์มดังกล่าวเพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้นอีก ซึ่งจะเรียกว่าแพลตฟอร์ม FLOW BUSINESS PROCESS MANAGEMENT ที่จะเริ่มให้บริการในไตรมาส 4/2564 รวมถึงคาดว่าจะมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มโรงงานเพิ่มเข้ามาประมาณ 5-10 ราย

ขณะเดียวกันช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา SO ได้พัฒนาระบบ Payroll Outsource Guard and Security ซึ่งจะใช้เพื่อการคำนวณค่าตอบแทนในอาชีพผู้รักษาความปลอดภัยให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงโปรแกรม VEHICLE MANAGEMENT SYSTEM ที่จะสามารถให้บริการเช่ารถยนต์ที่ง่ายและสะดวกมากขึ้นอีกด้วย

ด้านโครงการให้บริการพนักงานขับรถกลุ่มงานสาธารณะ 2,000 อัตรา ที่จะทยอยส่งพนักงานขับรถเป็นเฟส เฟสละ 200-300 คนนั้น ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้โครงการล่าช้าออกไปแต่คาดว่าจะกลับมาเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 3/2564 นี้

อีกทั้งด้านประเด็นรถยนต์ไร้คนขับว่าด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวยังไม่ส่งผลกับธุรกิจจัดหาบุคลากรของ SO เนื่องจากยังคงต้องใช้เวลาอีกสักพักในการเติบโต รวมไปถึงบุคลากรที่ทาง SO จัดหาไปนั้นสามารถดูแลและให้บริการลูกค้าได้มากกว่าการเป็นคนขับรถดังนั้นทาง SO จึงมั่นใจว่าเทคโนโลยีบางอย่างก็จะไม่สามารถทดแทนการบริการจากแรงงานคนได้

Back to top button