หุ้นยุโรปปิดพุ่งหลังเฟดส่งสัญญาณเฟดขึ้นดบ.ปีนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาดแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.84% ปิด (25 ก.ย.) ที่ 349.28 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,480.66 จุด เพิ่มขึ้น 133.42 จุด หรือ +3.07%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,688.53 จุด เพิ่มขึ้น 260.89 จุด หรือ +2.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,109.01 จุด เพิ่มขึ้น 147.52 จุด, +2.47%

ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นขานรับถ้อยแถลงล่าสุดของเยลเลนที่ระบุว่า เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตราบใดที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนการจ้างงาน โดยการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนของนางเยลเลนในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาดแล้ว ยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐด้วย

หุ้นอาดิดาส พุ่งขึ้น 4.1% เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทคู่แข่งอย่างไนกี้ โดยไนกี้ระบุว่า ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์กีฬาทั่วโลกของทางบริษัทปรับตัวขึ้น 17% เนื่องจากยอดสั่งซื้อจากยุโรป จีน ญี่ปุ่น และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหุ้นโซดิแอค แอโรสเปซ 6.8% หลังจากอเมริกัน แอร์ไลน์ ยกเลิกทำสัญญาการจัดหาอุปกรณ์ภายในเครื่องบินของโซดิแอค แอโรสเปซ อันเนื่องมาจากการส่งมอบที่ล่าช้า

หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู หุ้นเดมเลอร์ และหุ้นเรโนล์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2.2% แต่หุ้นโฟล์คสวาเกนร่วงลง 3.8% หลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โดบรินด์ รมว.ขนส่งเยอรมนี แถลงว่า โฟล์คสวาเกนติดตั้งซอฟท์แวร์ที่ทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยมลพิษน้อยกว่าความเป็นจริงในรถยนต์นั่ง รวมทั้งรถบรรทุกขนาดเบาด้วย พร้อมกับระบุว่ารถยนต์โฟล์คสวาเกนในเยอรมนีจำนวน 2.8 ล้านคันมีการติดตั้งซอฟท์แวร์ที่ทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยมลพิษน้อยกว่าความเป็นจริง เช่นเดียวกับที่พบในสหรัฐ

Back to top button