SRICHA วิ่ง 6% โบรกฯแนะ “ซื้อ” เป้า 23 บ. ลุ้นคว้างานใหม่ 3 พันลบ. – ปันผลพิเศษ
SRICHA พุ่ง 6% โบรกฯชี้ครึ่งปีหลังคว้าอย่างน้อย 2 โครงการ มูลค่ารวม 3 พันลบ. โดยคาดเงินปันผลปี 2564 -2565 ที่ 1-1.10 บาท และมีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษ ทั้งนี้เชียร์ “ซื้อ”เป้า 23 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 มิ.ย.64) ราคาหุ้นบริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SRICHA ณ เวลา 15.42 น. อยู่ที่ระดับ 21.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 5.85% โดยทำจุดสูงสุดที่ 22.10 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 19.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130.96 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยประเมิน SRICHA ซึ่งคาดว่าเป็นวัฏจักรขาขึ้นของการลงทุนในโครงการพลังงานและปิโตรเคมีหนุนจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวขึ้นจะส่งผลบวกต่อ SRICHA โดยคาดว่า SRICHA จะรายงานยอด Backlog ที่แข็งแกร่งและกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นมากในปี 2564 ถึง 2566 และช่วงสิ้นไตรมาส 1/2564 SRICHA มียอด Backlog ในมือที่ 2.1 พันล้านบาท ซึ่ง SRICHA จะเข้าร่วมประมูล 5 โครงการมูลค่ารวม 7 พันล้านบาท
อีกทั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ผู้บริหารเชื่อมั่นว่า SRICHA จะชนะประมูลอย่างน้อย 2 โครงการมูลค่ารวม 3 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการปิโตรเคมีในจังหวัดระยองที่เป็นงานต่อเนื่องจากลูกค้าปัจจุบัน ขณะที่อีก 3 โครงการ ได้แก่ งานโครงสร้างเหล็กเพื่อส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย (1 พันล้านบาท) งานวางระบบท่อ (2 พันล้านบาท) และงาน Module Parts (1 พันล้านบาท) ด้านฝ่ายวิจัยเห็น Upside ที่ 1-2 พันล้านบาท จากงานโครงการที่สัมพันธ์กับโครงการ CFP ของ Thai Oil ซึ่ง SRICHA ได้รับงานมูลค่ารวม 828 ล้านบาท ด้านวางโครงสร้างเหล็ก วัสดุอุปกรณ์และการวางระบบท่อ/หุ้มฉนวน
ด้านฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มประมาณการรายได้ของ SRICHA ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 17% มาอยู่ที่ 2.80 พันล้านบาท และปี 2566 เพิ่มขึ้น 15% ขึ้นมาอยู่ที่ 3 พันล้านบาท ทั้งนี้มองว่า SRICHA สามารถส่งมอบงานได้สูงถึงปีละ 3 – 3.50 พันล้านบาท จากจำนวนแรงงานที่ 2,000 รายและโรงงานผลิต 4 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งยังคงประมาณการอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เชิงอนุรักษ์นิยมตามเดิมที่ 30% ในปี 2565 – 2566
ทั้งนี้ราคาเหล็กในประเทศที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 40% นับจากต้นปีมาถึงช่วงเวลาปัจจุบัน มาอยู่ที่ 32 บาท/กก.) จะส่งผลกระทบเล็กน้อยจาก GPM เพราะต้นทุนเหล็กคิดเป็นสัดส่วนแค่ 4% ของต้นทุนขาย(COGS) นอกจากนี้ SRICHA สามารถส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้ลูกค้าได้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้น 22% มาอยู่ที่ 479 ล้านบาท และในปี 2566 เพิ่มขึ้น 20% มาอยู่ที่ 519 ล้านบาท โดยคาดว่า SRICHA จะรายงานอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของกำไรสุทธิช่วง 3 ปีที่ 54% ระหว่างปี 2565-2566 หนุนจากยอด Backlog คุณภาพสูงและโครงการในอนาคต
อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยได้เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 23.00 บาท (จาก 20.00 บาท) คำนวณด้วย PBV ที่ 4 เท่า (+0.5SD ของระดับเฉลี่ยในอดีต) และ BVPS ปี 2565 – 2566 เฉลี่ยสูงขึ้นเป็น 5.7 บาท (จาก 5.62 บาท) ทั้งนี้ปรับเพิ่มเป้า PBV ขึ้นเป็น 4 เท่า(+0.5SD)จาก 3.5 เท่า (+0.25SD) เพราะคาดว่า ROE จะสูงขึ้นในปี 2565 – 2566 เทียบกับระดับในปี 2564 โดยคาดว่าเงินปันผลต่อหุ้นจะอยู่ที่ 1-1.10 บาท ในปี 2564 -2565 หรือคิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 5-7% นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยยังคาดว่า SRICHA มีโอกาสมากที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษเพราะเป็นบริษัทที่มีสถานะปลอดหนี้ด้วยปริมาณเงินสดในมือที่สูงถึง 1.10 พันล้านบาท (3.74บาท/หุ้น) และ EBITDA ที่ปีละ 500-600 ล้านบาท