CHG บวก 3% ลุ้น Q2 โต! รับรายได้ “บริหารรพ.รัฐ – โควิด” หนุน โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 4 บ.

CHG บวก 3% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 4 บ. มอง รายได้ไตรมาส 2 โตเด่น ชี้แรงหนุนจากการบริหารโรงพยาบาลรัฐฯราว 65-70 ล้านบาท– รายได้จากการตรวจคัดกรองและรักษาผู้ป่วยโควิดรวมราว 250 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (30 มิ.ย.64) ราคาหุ้นบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ปิดตลาดภาคเช้า ณ เวลา 12.30 น. อยู่ที่ระดับ 3.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 2.60% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.04 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 3.86 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 618.91 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 พ.ค. 2564) โดยทำการประเมินหุ้นCHG ว่ามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมเมื่อวันที่ (20 พ.ค. 2564) มีประเด็นสำคัญดังนี้

1.ปัจจุบันมีผู้ป่วย COVID-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลราว 200 เตียง และมีรักษาที่อยู่ Hospitelราว 700 เตียง ทำให้คาดว่า IPD ไตรมาส 2/2564 จะมีรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ OPD มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากรายได้การตรวจคัดกรอง COVID-19 แม้รายได้ OPD ทั่วไปจะมีผู้เข้าใช้บริการลดลง

2.คาดไตรมาส 2/2564 จะมีรายได้จากการบริหารโรงพยาบาลราว 65-70 ล้านบาท (รับรู้เต็มไตรมาส) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2564 ที่รับรู้รายได้เพียง 2เดือน โดยมีรายได้จากการบริหารโรงพยาบาลราว 52 ล้านบาท

3.โรงพยาบาลใหม่ (โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์และ โรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา (RPC)) ทรงตัว โดย RPC มีผลประกอบการไตรมาส 1/2564 เป็นกำไรแล้ว ขณะที่ 304 ยังคงขาดทุนโดยไตรมาส 1/2564 มีคู่แข่งมาเปิดโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงกันทำให้มีผู้ใช้บริการลดลง

4.ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง COVID-19 อยู่ที่ 500 รายต่อวัน ปรับตัวลดลงจากช่วงกลางเดือนเม.ย. 2563 ที่ราว 1,500 รายต่อวัน

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยปรับกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น 21% เป็น 1,179 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 35% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) จากเดิมอยู่ที่ 973 ล้านบาท และปี 2565 เพิ่มขึ้น 15% เป็น 1,202 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) จากเดิมอยู่ที่1,043 ล้านบาท จากการปรับรายได้ผู้ป่วยปี 2564 (รวมรายได้คัดกรองและ admit จากกรณี COVID-19) ส่วน OPD ปรับขึ้นเป็น 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จากเดิมอยู่ที่ 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและรายได้จากผู้ป่วย IPD ปรับขึ้นเป็น 54% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จากเดิมอยู่ที่ 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะเดียวกันยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (gross profit margin)ไว้ที่เดิมที่ 32.5% รวมถึงยังคงสมมติฐานฐานผู้ป่วยต่างชาติจะกลับเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2564 แบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ครึ่งปีหลัง 2564 ยังมีปัจจัยหนุนจากวัคซีนทางเลือกซึ่งยังไม่รวมในประมาณการของทางฝ่ายวิจัยคาดรายได้ไตรมาส 2/2564โตโดดเด่นจาก 1.มีรายได้จากการบริหารโรงพยาบาลรัฐฯ ราว 65-70 ล้านบาท 2.คาดเห็นรายได้จากการตรวจคัดกรอง COVID-19 ราว 250 ล้านบาท รวมถึงมีรายได้จากการรักษาผู้ป่วย COVID-19 (รวม Hospitel) เติบโตโดดเด่น

ดังนั้นคงราคาเป้าหมายปี 2564 อยู่ที่ 4.00 บาท โดย Key catalyst ในปีนี้จะเป็นผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304อินเตอร์ และ โรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา จะเริ่มรับรู้กำไรในปี 2564จากผลประกอบการโดยรวมที่ดีขึ้นและรายได้จากการบริหารโรงพยาบาล 3แห่ง ขณะที่ราคาเป้าหมายที่ 4.00 บาท เทียบเท่า 2564 PER ที่ 36 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 39 เท่า

Back to top button