MAJOR บวก 3% เล็งรับหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉาย Q3 ดันธุรกิจฟื้น โบรกฯชี้เป้า 30 บ.
MAJOR บวก 3% โบรกฯมองรับ กระแสหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Fast and Furious 9 เข้าฉาย 12 สิงหาคมนี้ตอบรับคึกคัก และตารางหนังจุใจเริ่มช่วงเดือนส.ค.นี้ ทั้งนี้ยังแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 ก.ค. 2564 ) ราคาหุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์กรุ้ป จำกัด (มหาชน)หรือ MAJOR ณ เวลา 11.45 น. อยู่ที่ระดับ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60บาท หรือ 2.52% โดยทำจุดสูงสุดที่ 24.70 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86.65 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มิ.ย.64) ประเมินต่อหุ้น MAJOR ว่ามีมุมมองการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบต่อโรงหนังแต่ไม่รุนแรงเท่าการล็อกดาวน์ในรอบแรก เนื่องจากครั้งนี้ไม่ใช่การล็อกดาวน์อย่างเข็มงวดและการวางแผนรับมือได้ดีขึ้น หลังจากในปี 2563 ที่ผ่านมา โรงหนังทั่วประเทศถูกสั่งปิดให้บริการ อีกทั้งในรอบนี้ทางฝ่ายวิจัยมองว่าฝั่งอุปทานไม่มีปัญหา เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ในหลายๆประเทศเริ่มคลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหรัฐฯ
นอกจากนี้ Fast and Furious 9 เข้าฉายแล้วใน 13 ประเทศในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยสามารถทำรายได้กว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯไปแล้ว ซึ่งเป็นหนังฮอลลีวูดเรื่องที่สามที่สามารถทำรายได้เกิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯได้นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด 19 (หลังจาก Godzilla Vs. Kong และ Tenet) โดยทำรายได้เปิดตัวเป็นอันดับที่สี่ตลอดกาลในประเทศอิสราเอลด้วยรายได้ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯในประเทศออสเตเรีย ซึ่งมากกว่ารายได้จากเรื่อง Hobbs & Shaw แต่น้อยกว่าเรื่อง Fate of the Furious เล็กน้อยและต้องจับตามองการเปิดตัวในอเมริกาเหนือในคืนวันพฤหัสบดีนี้
ขณะเดียวกันในเดือน มี.ค.2564 การเข้าฉายของ Godzilla vs. Kong ในประเทศไทยช่วยคลายความกังวลต่อพฤติกรรมที่อาจเปลี่ยนไปได้เพราะการระบาดของโควิด 19 ทั้งนี้ Fast and Furious 9 จะเข้าฉายในประเทศไทยซึ่งคาดจะเป็นหนังที่เร่งให้ผู้ชมกลับมาใช้บริการโรงหนังมากขึ้น ทั้งนี้ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันหาก Fast and Furious 9 สามารถสร้างรายได้เปิดตัวได้เท่ากับ Hobbs & Shaw (93 ล้านบาทในปี 2562) ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่หากสามารถทำได้ในระดับเดียวกับ Fate of the Furious (168 ล้านบาทในปี 2560) จะเป็นการยืนยันว่าความเต็มใจและความต้องการชมภาพยนตร์ใหญ่ในโรงภาพยนตร์ของผู้บริโภคกลับมาเป็นปกติแล้ว
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยปรับประมาณการ PER จาก 23 เท่าไปเป็น 29 เท่า (เท่ากับค่า PER ของบริษัท ณ ช่วงฟื้นตัวปี 2552) หนุนให้ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มจาก 25 บาทไปเป็น 30 บาท แนะ “ซื้อ”
อนึ่ง MAJORได้กำหนดฉายหนังเรื่องอื่นๆเริ่มต้นเดือนสิงหาคม ส่วน Fast and Furious 9 ได้มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 12 สิงหาคม 2564