“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” ดีดเกือบ 100 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานพุ่งเกินคาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(2ก.ค.64) ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นเกือบ 100 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นเกินคาด โดย ณ เวลา 19.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 87 จุด หรือ 0.25% สู่ระดับ 34,601 จุด การดีดตัวขึ้นของดัชนีบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ

โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 131 จุดวานนี้ โดยดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขานรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นทะลุ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ด้านตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 12.7% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้น 14.4% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 12.5%

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 706,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.6% หลังจากแตะระดับ 5.8% ในเดือนพ.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 583,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 559,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 269,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 278,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนมิ.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 662,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ทรงตัวที่ระดับ 61.6%