BEC วิ่ง 4% รับเรทติ้งช่องพุ่ง – ปิดดีลขายลิขสิทธิ์คอนเท้นต์ ลุ้นกำไรปีนี้แตะ 861 ลบ.
BEC วิ่ง 5% รับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นหลังเรทติ้งรายการข่าวพุ่ง นอกจากนี้ยังเดินหน้าขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ทั่วโลกโดยมีเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 500 ล้านบาท หลังจากปิดดีลจีนกว่า 5 เรื่อง โบรกฯคาดกำไรปีนี้ แตะ 861 ล้านบาท ชูเป้า 16 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (15 ก.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ณ เวลา 11.30 น. อยู่ที่ระดับ 14.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 4.29% โดยทำจุดสูงสุดที่ 15.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 14.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 477.29 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ค. 2564) โดยประเมินต่อหุ้น BEC ว่าหลังจาก“คุณสรยุทธ” กลับมาประกาศข่าว 2 รายการให้กับทางช่อง 3 ในเดือน พ.ค. 2564 ส่งผลให้เรทติ้งของทั้ง 2 รายการเพิ่มขึ้น โดยรายการเรื่องเล่าเช้านี้มีเรทติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 1.20 ในเดือน พ.ค. 2564 (เรทติ้งของพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลคือ 3 และต่างจังหวัดคือ 0.80) เพิ่มขึ้นจาก 1.10 ในเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 (เรทติ้งของพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลคือ 2.50และต่างจังหวัดคือ 0.80) และรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์มีเรทติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 2.50 ในเดือน พ.ค. 2564 (เรทติ้งของพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลคือ 6.90) เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 1.90 (เรทติ้งของพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลคือ 4.8)
โดยบ่งบอกเป็นนัยว่าผู้ฟังในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลชอบการอ่านข่าวของ “คุณสรยุทธ” ซึ่งลูกค้าพร้อมที่จะจ่ายพรีเมี่ยมสำหรับการออกอากาศในพื้นที่นี้ เนื่องจากประชากรในพื้นที่นี้มีกำลังซื้อมากที่สุด ทั้งนี้เรทติ้งของรายการข่าวอื่นๆในเดือน พ.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 20-30% เช่นกัน โดยเป็นผลมาจากการปรับผังครั้งใหญ่ของช่อง 3 โดยรวมรายการโทรทัศน์มีเรทติ้งเพิ่มขึ้นจาก 1 ในเดือน เม.ย. 2564 มาอยู่ที่ 1.20ในเดือน พ.ค. 2564 (เพิ่มขึ้น 20%)
อีกทั้งทางฝ่ายวิจัยได้ตรวจสอบอัตราการใช้โฆษณาสำหรับข่าวทั้ง 2 รายการ โดยพบว่าอยู่ที่ 60% ในเดือน เม.ย. 26564 ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ 30% ในเดือน เม.ย. 2563 ซึ่งในเดือน พ.ค. 2564 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 75% สำหรับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ (ถึงแม้จะมีการเพิ่มเวลาออกอากาศ 25 นาที) และ 90% สำหรับรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ โดยเชื่อว่า BEC มีโอกาสเพิ่มค่าโฆษณาของรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์อีกในไตรมาส 3/2564 (อัตราการจองซื้อเกือบ 100%)
ทั้งนี้หากราคาสำหรับค่าโฆษณาของรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ปรับเพิ่มขึ้น 10% โดยคาดว่าบริษัทฯจะมีกำไรส่วนเพิ่ม 10-15 ล้านบาท (ยังไม่รวมสปอนเซอร์) ในปีนี้ ดังนั้นจะเป็นอัพไซด์ต่อการประมาณการกำไรปี 2564 ของทางฝ่ายวิจัยอยู่ที่1-2%
สำหรับละครเรื่องใหม่ล่าสุด 4 เรื่องของ BEC (ที่ฉายในช่วง 18.00 ถึง 20.00) เป็นละครอันดับ 1 ที่มีผู้ชมมากที่สุดซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถเพิ่มการโฆษณาได้ในไตรมาส 3/2564 ในด้านธุรกิจการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ โดยบริษัทฯมีเป้าหมายรายได้จากธุรกิจขายลิขสิทธิ์คอนเท้นต์ทั่วโลกอยู่ที่ 500 ล้านบาท (ซึ่งปิดดีลไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้มีการปิดดีลในการขายลิขสิทธิ์ละครให้กับประเทศจีนมากกว่า 5 เรื่องในครึ่งหลังของปี 2564 นอกจากนี้บริษัทฯมีดีลกับ Netflix ที่จะออกอากาศละครของบริษัทฯถึง 6 เรื่องในรูปแบบ Date-of-Broadcast (DOB) ในครึ่งหลังของปี 2564 ซึ่งจะเป็นการออกอากาศบนแพล็ตฟอร์มของ Netflix (25 ประเทศในเอเชีย) ภายใน 2 ชม.หลังการออกอากาศครั้งแรก
ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าการระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้จะส่งผลกระทบต่อฝ่ายการผลิตคอนเท้นต์ของสื่อโทรทัศน์หลายราย แต่ BECยังคงสามารถออกอากาศคอนเท้นต์ใหม่ได้เนื่องจากบริษัทฯมีคอนเท้นต์ในมือที่แข็งแรง(โดยส่วนมากเป็นละคร)ซึ่งปกติละครของช่อง 3 จะถ่ายทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนการออกอากาศ โดยเริ่มเห็นเม็ดเงินโฆษณาบางส่วนย้ายจากรายการฉายซ้ำของช่องอื่นมาที่รายการที่ออกอากาศครั้งแรกของ BEC ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยได้ปรับขึ้นประมาณการกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น 60% มาอยู่ที่ 861 ล้านบาท และปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 11 บาทเป็น 16 บาท แนะ“ซื้อเก็งกำไร”