ศบค. เตรียมยกระดับ “มาตรการคุมโควิด” หลังยอดติดเชื้อยังสูง
ศบค. เตรียมยกระดับ "มาตรการคุมโควิด" หลังยอดติดเชื้อยังสูง ใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค.ในวันนี้(16 ก.ค.64) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้มอบหมายให้คณะแพทย์ไปทบทวนมาตรการด้านสาธารณสุขให้เข้มข้นขึ้น หลังจากในวันนี้ได้มีการทบทวนผลของมาตรการต่าง ๆ ที่ได้ยกระดับไปในช่วงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการประกาศมาตรการของศบค.ไปแล้ว 5 วัน ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้มีการรายงานพบว่า ประชาชนยังมีการกระทำความผิดฝ่าฝืนตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งหมด 217 ราย แบ่งเป็นฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน 158 ราย และฝ่าฝืนมาตรการห้ามรวมกลุ่มและมั่วสุม 59 ราย โดยมีการดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 45 ราย ที่เหลือเจ้าหน้าที่พยายามตักเตือนและขอความร่วมมือ
ทั้งนี้ ศปม.ได้เน้นย้ำว่า ในส่วนของความทำงานของเจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มงวดและขอความร่วมมือประชาชน ทั้งในส่วนของการดำเนินการตามมาตรการ การห้ามออกนอกเคหสถาน การรวมกลุ่ม หรือการเดินทางภายในประเทศของประชาชน โดยข้อมูลของกระทรวงคมนาคม พบว่า หลังจากประกาศบังคับใช้มาตรการที่ผ่านมา ยังพบว่า มีประชาชนเดินทางอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการข้ามพื้นที่ในจังหวัดเดียวกัน รวมทั้งจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดมีการเดินทางออกนอกจังหวัด ซึ่งที่ประชุมศบค.มีความเป็นห่วง อีกทั้งยังสอดคล้องกับการรายงานของกรมควบคุมโรคพบว่า มีการรายงานการออกนอกเคหสถาน และพบพฤติกรรมการรวมกลุ่ม ยังพบการตั้งวงเล่นการพนัน
สำหรับมาตรการส่วนบุคคล กรมควบคุมโรครายงานว่า ยังพบการเคลื่อนย้าย การเดินทางโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการเว้นระยะห่าง และยังพบว่า ประชาชนบางส่วนไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการได้ และยังมีการแจ้งเบาะและนำไปสู่การจับกุม มีการร้องเรียนสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการมากถึง 102 ข้อร้องเรียน มีการรายงานการมั่วสุมมากถึง 92 เหตุการณ์
“มาตรการล็อกดาวน์ที่มีการประกาศไป เป็นไปตามสถานการณ์ ตามพื้นที่ ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด แต่จากการทบทวนมาตรการ ยังเห็นว่ามีความน่าเป็นห่วง…อาจจะปิดมากขึ้น เข้มข้นมากขึ้น ขอให้ติดตามในเร็วๆ นี้” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ระบุ