โบรกฯแนะกลยุทธ์การลงทุนประจำเดือนตุลาคม
บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุสำหรับแนวโน้มการลงทุนในเดือนตุลาคม ยังคงคาดว่าตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนตาม 2 ปัจจัย คือ 1) ผลการประชุมเฟดในวันที่ 27-28 ต.ค.ว่าจะมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และ 2) ความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ก.ย.)สำหรับแนวโน้มการลงทุนในเดือนตุลาคม ยังคงคาดว่าตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนตาม 2 ปัจจัย คือ 1) ผลการประชุมเฟดในวันที่ 27-28 ต.ค.ว่าจะมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และ 2) ความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
สำหรับประเด็นเรื่องจีน คาดว่าหากจีนประกาศ GDP ออกมาต่ำกว่า 7% เมื่อไร (GDP ไตรมาส 3/58 ประกาศวันที่ 19 ต.ค. 58) ตลาดหุ้นทั่วโลกจะกลับมาผันผวนหนักอีกรอบ (มีโอกาสที่ GDPไตรมาส 3/58 จะออกมาต่ำกว่า 7% หลังทั้งตัวเลข PMI ภาคการผลิต, ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมและตัวเลขส่งออก ออกมาแย่มาก)
ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐคาดว่าได้สะท้อนไปในราคาสินทรัพย์ระดับหนึ่งแล้ว ทำให้เราเชื่อว่าหากมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริงไม่ว่าจะเป็นเดือนตุลาคมหรือธันวาคม ราคาสินทรัพย์ต่างๆ จะปรับลดลงอีกไม่มากแล้ว วันนี้เราคาดว่าตลาดน่าจะเริ่มมีการรีบาวน์ตามตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจากมีแรงซื้อกลับเข้ามาเมื่อวานนี้ แต่การฟื้นตัวคงไปได้ไมไกลจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ
โดยกลุ่มที่ยังเน้นให้ลงทุนยังคงเป็นกลุ่มที่มีความปลอดภัยจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว, กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าและกลุ่มที่คาดว่าจะมีกำไรแข็งแกร่งในครึ่งปีหลังและรวมไปถึงปีหน้าอย่าง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)หรือ BDMS กลุ่มอิเล็กโทรนิคส์ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE และกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT