FVC วอลุ่มแน่น-พุ่งกระฉูด 14% คาดเก็งกำไรทางเทคนิค-ลุ้นผลงานปีนี้ “เทิร์นอะราวด์”
FVC วอลุ่มแน่น-พุ่งกระฉูด 14% โดย ณ เวลา 15.49 น. อยู่ที่ระดับ 1.07 บาท บวก 0.13 บาท คาดเก็งกำไรทางเทคนิค-ลุ้นผลงานปีนี้ “เทิร์นอะราวด์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(20ก.ค.64) ราคาหุ้น บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ณ เวลา 15.49 น. อยู่ที่ระดับ 1.07บาท บวก 0.13 บาท หรือ 13.83% สูงสุดที่ระดับ 1.08 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.93 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 174.03 ล้านบาท
โดยคาดเก็งกำไรทางเทคนิคขาขึ้น และผลการดำเนินงานในปีนี้จะสามารถพลิกมีกำไร เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 บริษัท บริษัทโชว์ผลงานพลิกมีกำไร 8.45 ล้านบาท จากไตรมาส 1/63 ขาดทุน 6.62 ล้านบาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายวิจิตร เตชะเกษม ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ FVC เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดจะพลิกมีกำไรสุทธิอย่างน้อย 20 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 92.94 ล้านบาท และวางเป้าหมายรายได้รวมในปี 64 ไว้ที่ 800 ล้านบาท จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากแนวโน้มของ 3 ธุรกิจหลักเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจาก 3 ธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบไปด้วย ธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ B1 (industrial&OEM) 150-170 ล้านบาท, ธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย B2 (Commercial & Residential) 270-300 ล้านบาท และธุรกิจบริการทางการแพทย์ B3 (Medical Service) 200-300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้มีการวางแผนธุรกิจในช่วง 3 ปีจากนี้ (2564-2566) แบ่งเป็น ธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ B1 (industrial&OEM) ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 150-2200 ล้านบาทภายในปี 66 มีการพัฒนาระบบ Smart Warehouse ด้วย SAP ซึ่งจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบ Online Approval&Report ทำให้บริหารจัดการงานต่าง ๆ อย่างรวดเร็วขึ้นได้ และยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้คือ KENT เป็นระบบน้ำที่สามารถปรับเกลือแร่ได้ตามต้องการ สามารถจำหน่ายได้ทั้งตลาดกลุ่มที่พักอาศัยและตลาดเชิงพาณิชย์ ซึ่งในช่วงต้นปีที่มีปัญหาน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ลูกค้าให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ด้านธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย B2 (Commercial & Residential) ตั้งเป้าแตะ 500 ล้านบาทภายในปี 66 โดยมีการขยายฐานลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการนำระบบ SAP มาใช้ทำกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย โดยในปีนี้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ BIOSURE FOODSERVICE เพื่อตอบโจทย์ความสะอาดด้านระบบน้ำ และ Air Treatment ตอบโจทย์การจัดการฆ่าเชื้อในอากาศ ในห้องพักหรือพื้นที่ออฟฟิศ
ขณะที่ธุรกิจบริการทางการแพทย์ B3 (Medical Service) ตั้งเป้ารายได้ 500 ล้านบาทภายในปี 66 และวางแผนเพิ่มเครื่องไตเทียมให้ถึง 200 เครื่อง จากในปัจจุบัน 150 เครื่อง คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายปีนี้ รวมไปถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้คือ ระบบ Pneumatic Tube Carrier System ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายในปีนี้อยู่ที่ 30-40 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการวางแผนนำบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (KTMS) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 65 อีกด้วย
ส่วนของธุรกิจให้บริการคลินิกเวชกรรมด้านสุขภาพและความงาม B4 (Medical Beauty Treatment Service) ภายใต้แบรนด์วุฒิศักดิ์ตลินิค ยังคงปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงประเมินสถานการณ์และวางแผนในอนาคต