หุ้นแบงก์วิ่งคึก! นลท.แห่เก็งกำไรงบ Q2 โตเกินคาด “ตั้งสำรองลด-รายได้ค่าฟีเพิ่ม”

หุ้นกลุ่มแบงก์วิ่งคึก! นำทีม SCB-KTB-BAY-BBL-KBANK เนื่องจาก นลท.แห่เก็งกำไร หลังงบ Q2 ออกมาเด่นกว่าโบรกฯคาด เหตุจากการตั้งสำรองลดลง, รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น และรายได้พิเศษเข้ามา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10.45 น. ดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.18% มาอยู่ที่ 332.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.48 จุด โดยราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง คาดนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 ออกมาดีกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ค. 264) ว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ของกลุ่มธนาคารที่ทางฝ่ายวิจัย cover ทั้งหมด 7 ตัวนั้นได้รายงานออกมาครบแล้ว ซึ่งโดยรวมออกมาดีกว่าที่คาดจากการตั้งสำรองที่น้อยกว่าคาด, รายได้ค่าธรรมเนียมที่ดี และรายได้พิเศษ

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KTB และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ถือว่ารายงานออกมาได้ค่อนข้างเด่นสุดในกลุ่ม ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY รายงานออกมาดีจากรายได้พิเศษเข้ามาหนุน

อย่างไรก็ตามหากมองไปข้างหน้าในช่วงไตรมาส 3/2564 หากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงยืดเยื้อ อาจมีความเสี่ยงที่กลุ่มธนาคารอาจต้องกลับมาตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจจะแย่ลง

นอกจากนี้ Policy Risk ยังเป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตามโดยล่าสุดธปท.เตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์เรื่องการกำกับดูแลค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์กว่า 300 รายการเพื่อให้การคิดค่าธรรมเนียมสะท้อนต้นทุนและรายได้ที่เกิดขึ้นจริงโดยทุกธนาคารจะต้องทบทวนและเปิดเผยค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์เพื่อความโปร่งใส รวมทั้งให้ ธปท.ดึงข้อมูลเพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบเลือกใช้บริการแต่ละธุรกรรมได้ว่าคิดค่าธรรมเนียมเท่าไรบ้าง

ดังนั้นคาดว่าประเด็นดังกล่าวอาจกระทบกลุ่มธนาคารจำกัด เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่เหล่าธนาคารหันมาเน้นมากขึ้นจะเป็นค่าธรรมเนียมกลุ่มประกันและกองทุนมากกว่าค่าธรรมเนียมด้านธุรกรรม แต่จะกดดัน Sentiment การลงทุนระยะสั้น ดังนั้นถึงแม้ว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะปรับตัวลงมาอยู่ในระดับมูลค่าที่ค่อนข้างถูก P/B ต่ำกว่าระดับ 2SD จำกัด Downside แต่อาจไม่สามารถคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นชัดเจนในระยะอันใกล้ แนะนำให้รอติดตามดูสถาณการณ์โควิดในการประกอบการตัดสินใจลงทุนในกลุ่มธนาคาร

Back to top button