“รมว.อุตฯ” ย้ำอย่าวิตก กำลังผลิตก๊าซออกซิเจนเพียงพอ–ฉุกเฉินเพิ่มได้ 2 พันตันต่อวัน
“รมว.อุตฯ” ยืนยัน ปริมาณผลิตก๊าซออกซิเจนเพียงพอรองรับความต้องการประชาชน ด้วยกำลังผลิตรวมทั้งหมด 1,860 ตันต่อวัน จาก 15 โรงงานและจะมีเพิ่มอีก 1 โรงงาน หากฉุกเฉินสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 2,200 ตันต่อวัน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีมีรายงานข่าวว่าประชาชนเริ่มวิตกกังวลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายเป็นวงกว้าง ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกวันและเกรงว่าการผลิตก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์อาจไม่เพียงพอหรือขาดตลาดจึงได้มีการจัดหาและเก็บท่อออกซิเจนไว้ที่บ้าน
โดยกรณีที่เกิดขึ้นนี้ได้ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ประสานไปยังกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรมจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมก๊าซอุตสาหกรรมสยาม โรงงานผู้บรรจุก๊าซ และผู้ผลิตภาชนะบรรจุก๊าซ เพื่อสอบถามถึงความพร้อมในเรื่องของกำลังการผลิต ซึ่งได้รับการยืนยันว่าภาพรวมศักยภาพการผลิตของโรงงานยังมีเพียงพอที่จะรองรับกับความต้องการของพี่น้องประชาชน
“เข้าใจว่าพี่น้องประชาชนอาจจะวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอย้ำตรงนี้ว่า ไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในอนาคต เพราะจากการประสานงานไปยังเอกชนทั้ง 4 กลุ่ม ทั้งกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรมจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมก๊าซอุตสาหกรรมสยาม โรงงานผู้บรรจุก๊าซ และผู้ผลิตภาชนะบรรจุก๊าซ ได้รับคำตอบยืนยันว่าศักยภาพการผลิตของโรงงานแต่ละกลุ่มยังมีเพียงพอรองรับความต้องการของประชาชนได้” นายสุริยะ กล่าว
ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการประสานกับทางกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม สมาคมก๊าซอุตสาหกรรมสยาม และผู้ผลิตภาชนะบรรจุก๊าซ ได้รับการยืนยันถึงศักยภาพการผลิตของโรงงานโดยภาพรวมทั้งประเทศกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 1,860 ตันต่อวัน จากจำนวนโรงงาน 15 โรงงาน ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชลบุรี ระยอง สงขลา ลำพูน และเชียงใหม่ โดยในปลายเดือนสิงหาคมนี้ จะมีเพิ่มอีก 1 แห่งที่จังหวัดระยอง โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 150 ตันต่อวัน ซึ่งหากมีกรณีฉุกเฉินสามารถเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนได้ถึง 2,200 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ปริมาณการใช้ก๊าซออกซิเจนทั้งทางการแพทย์และอุตสาหกรรมปัจจุบันประมาณ 1,260 ตันต่อวัน แบ่งเป็น ปริมาณความต้องการออกซิเจนทางการแพทย์ ประมาณ 400-600 ตัน/วัน และความต้องการก๊าซออกซิเจนในภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 660 ตัน/วัน
“จากตัวเลขประมาณการข้างต้น จึงมั่นใจได้ว่าศักยภาพของโรงงานด้านการผลิต สามารถรองรับความต้องการของพี่น้องประชาชนในอนาคตได้” นายประกอบกล่าว
ขณะเดียวกันทราบว่ามีประชาชนบางส่วนได้จัดหาและเก็บท่อก๊าซออกซิเจนไว้ที่บ้าน ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตราย เนื่องจากท่อก๊าซออกซิเจนเป็นท่อที่มีความดันสูง หากจัดเก็บหรือใช้งานอย่างผิดวิธีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ทั้งนี้ กรอ.จะประสานเอกชนทั้ง 4 กลุ่ม เพื่อติดตามการใช้ก๊าซออกซิเจน และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป