XPG ซิลลิ่ง 2 วันติด! รับเงินเพิ่มทุน 7 พันลบ. ขยายธุรกิจ หวัง “ระเฑียร” ดันเทิร์นอะราวด์

XPG ชนซิลลิ่ง 2 วันติด! แรงซื้อหนาแน่น นักลงทุนหวัง “ระเฑียร” ดันผลงานเทิร์นอะราวด์ หลังรับเงินเพิ่มทุนกว่า 7 พันล้านบาท ลุยพัฒนาและขยายธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ค. 64) ราคาหุ้นบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ณ เวลา10.24 น. อยู่ที่ระดับ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.14 บาท หรือ 29.53% สามารถปรับตัวขึ้นชนซิลลิ่งเป็นวันที่ 2 ของการทำรายการติดต่อกัน โดยทำจุดสูงสุดที่ 5.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อ 311.84 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นบนกระดานของหุ้น XPG  ได้วิ่งขึ้นอย่างร้อนแรงแล้วมาชนซิลลิ่งเป็นวันที่สองติดต่อกันนั้น แหล่งข่าวจากตลาดทุน เปิดเผยว่า ราคาหุ้น XPG ที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ผู้ซื้อจะไม่ได้รับสิทธิลูกหุ้นเพิ่มทุนใหม่แล้ว แต่เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในแนวโน้มผลการดำเนินงานหลังจากเพิ่มทุนสำเร็จจะออกมาดีจากนโยบายของนายระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการ XPG ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการยอมรับจากการบริหารงานบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เป็นอย่างดี จากบริษัทที่เคยประสบการขาดทุน กลับมาเป็นบริษัทที่มีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี

“นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า XPG ภายใต้การบริหารของระเฑียรจะเหมือนกับ KTC จะกลายเป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์ในอนาคต หลังจากที่ได้รับเงินเพิ่มทุนครั้งนี้ไปกว่า 7 พันล้านบาท”

ทั้งนี้ บริษัทจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 5,378 ล้านหุ้น อัตราการใช้สิทธิ หุ้นสามัญเดิม 1 หุ้นต่อ 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ราคาเสนอขาย 0.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคมนี้ หากมีหุ้นเหลือไม่ได้ใช้สิทธิครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมเข้าไปรับทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีการเข้ามาเก็งกำไร XPG-W4 ที่ล่าสุดได้ปรับราคาใช้สิทธิและจำนวนหุ้นใหม่ โดยราคาและอัตราการใช้สิทธิยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิมมาก ดังนั้นนักลงทุนจึงเข้ามาเก็งกำไรวอร์แรนต์ส่วนหนึ่ง ซึ่งราคาปัจจุบันยังมีแนวโน้มไปต่อหลังจากหุ้นแม่พุ่งชนซิลลิ่ง

ด้านนายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร XPG เปิดเผยว่า ปรับราคาและอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4 นั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิม โดยเหตุที่ต้องปรับสิทธิเนื่องจากเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด วันที่มีผลการปรับสิทธิ 27 ก.ค. 2564 นี้ สำหรับการปรับราคาและอัตราการใช้สิทธิ ราคาการใช้สิทธิเดิม 2.177 บาทต่อหุ้น เปลี่ยนเป็นราคาการใช้สิทธิใหม่ 0.815 บาทต่อหุ้น ส่วนอัตราการใช้สิทธิเดิม 1 หน่วยต่อ 2.48 หุ้น เปลี่ยนเป็นอัตราการใช้สิทธิใหม่ 1 หน่วยต่อ 6.621 หุ้น

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 3 ราย มีสัดส่วนการถือหุ้น XPG ดังนี้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)(SIRI) จะถือหุ้นในสัดส่วน 14.08% บมจ.วิริยะประกันภัย จะถือหุ้นในสัดส่วน 9.38% และนายมงคล ประกิตชัยวัฒนา จะถือหุ้นในสัดส่วน 12.67%

โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนทั้งรอบขายให้บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) หรือ PP และ RO รวม 7 พันกว่าล้านบาท จะนำไปเพื่อการพัฒนาและขยายธุรกิจต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันของกลุ่มบริษัท ได้แก่ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจจัดการกองทุน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และธุรกิจลงทุนในสินทรัพย์หรือบริษัทที่มีศักยภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.3 พันล้านบาท ในปี 2564-2568 การขยายการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง 4 พันล้านบาท ในปี 2564-2568 และการชำระคืนเงินกู้ยืมในรูปของตั๋วแลกเงินบางส่วน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ภายในไตรมาส 3/2564 โดยทุนดังกล่าวจะสามารถใช้บริหารแผน 5 ปี ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนอีก

Back to top button