3 โบรกฯดังแห่อัพเป้า AMR สนั่น 8.70 บ. ดันอัพไซด์สูงลิ่ว 25%

3 โบรกฯดังแห่อัพเป้า AMR สนั่น 8.70 บ. ดันอัพไซด์สูงลิ่ว 25% แถมลุ้นคว้างานใหม่เติมพอร์ตปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 ลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMR ไอพีโอป้ายแดงผู้เชี่ยวชาญระบบคมนาคมขนส่งและเมืองอัจฉริยะ หลังเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ SETวานนี้(2 ส.ค.64)ได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม

ล่าสุด 3 โบรกดังได้ปรับราคาเป้าหมายปี 2564 เอาไว้ในช่วง 8.00-8.70 บาท และมีอัพไซด์สูง โดยเทียบจากราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 2 ส.ค.64  อยู่ที่ระดับ 6.95 บาท หุ้นมีอัพไซด์มากถึง 25% เมื่อเทียบราคาเป้าหมายสูงสุด 8.70 บาท 

นอกจากนี้โบรกยังให้ราคาเป้าหมายปี 2565 อยู่ที่ 9.70-9.76 บาท พร้อมประเมินผลงานเติบโตแบบก้าวกระโดดตามเมกะเทรนด์ ทั้งงานด้านคมนาคมในระบบรางที่มีเม็ดเงินลงทุนมหาศาลรัฐฯ รวมถึงงานไอซีทีเป้าหมายที่เป็นพื้นฐานระบบ Smart Cities ใน 2-3 ปีจากนี้

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR)  โดยระบุว่าเป็นหุ้นที่ตอบรับโจทย์ไทยแลนด์ 4.0  เนื่องจาก AMR ประกอบธุรกิจด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชั่น (System Integrator) แบบครบวงจร ซึ่งหากพิจารณาจากงานในอดีตและงานในมือกลุ่มลูกค้าของ AMR จะเน้นไปที่งานวางระบบคมนาคมขนส่ง (Transportation Solution: TS) โดยในปี 2563 รายได้จากงานประเภท TS คิดเป็นราว 65.5% ของรายได้รวม และรายได้จากงานวางระบบไอซีทีและซิสเต็มส์โซลูชั่น (ICT and System Solution: ISS) ในปี 2563 คิดเป็นราว 23.7% ของรายได้รวมจะเห็นว่าโครงสร้างธุรกิจของ AMR สอดคล้องกับแผนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2561 – 2580 ของภาครัฐฯ

ประเด็นถัดมาคือรายได้ประมาณ 70% ของ AMR เป็นรายได้จากงานประเภท TS อาทิ ระบบเดินรถไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบในการดําเนินงานและงานซ่อมบํารุง ฯลฯ ซึ่งอิงไปกับการพัฒนาระบบรางและระบบคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ดังนั้น แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะงานระบบราง (รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่รถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล ฯลฯ) ที่คาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนราว 1.7 ล้านล้านบาท จากประวัติการทํางานในอดีต (Track record) ทําให้คาดว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะระบบราง จะเป็นอีกปัจจัยสําคัญที่หนุนผลการดําเนินงานของธุรกิจ IT Solution อย่าง AMR ด้วย

นอกเหนือจาก Backlog ในมือ AMR ยังมีงานรอประมูลอีกราว 8 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะทําให้รายได้เติบโต +7% CAGR (2563 – 66) อย่างไรก็ดี ทางบริษัทได้คํานึงถึงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากการประมูลงานโครงการ จึงวางเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากงานประเภทงานให้บริการดูแลรักษาและซ่อมบํารุง หรือ Maintenance Agreement (MA) ภายในปี 2565  ซึ่งงานประเภท MA จะเป็นรายได้ประเภท Recurring income ที่ต่อเนื่องและมีอัตรากําไรขั้นต้นที่สูง

ฝ่ายวิเคราะห์ฯได้ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2564 ได้เท่ากับ 8.7 บาท อิง PE 30 เท่า โดย Discount -14% จากค่าเฉลี่ย Forward PE ของหุ้นกลุ่ม Business Solution ที่เน้นงานด้านเทคโนโลยีที่ 35 เท่า

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด ได้ประเมินเกี่ยวกับ AMR ว่ามี Fair Value ปี 2564 เท่ากับ 8.58 บาทต่อหุ้น และปี 2565 เท่ากับ 9.76 บาทต่อหุ้น อ้างอิงวิธี PE ที่ 26 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Conservative ปรับลดจากค่า P/E เฉลี่ยย้อนหลังของบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันที่จดทะเบียนในตลาดต่างประเทศที่ราว 32 เท่า คำนวณบน EPS ปี 2564 ที่ 0.33 บาทต่อหุ้น และปี 2565 ที่ 0.38 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ โดยยังไม่รวม Upside จากแผนการใช้เงินที่ได้จากการ IPO เพื่อลงทุนต่อยอดธุรกิจในประมาณการ

โดยระบุว่าความน่าสนใจในการลงทุน AMR มาจากทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมากกว่า 20 ปี เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชั่น (SI) สัญญาติไทยรายเดียวที่มี Track Record ด้านงาน Turnkey ระบบเดินรถไฟฟ้าระดับเมกะโปรเจคของประเทศ

พร้อมทั้งประมาณการว่า AMR จะมีรายได้และกำไรต่อเนื่อง จากงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสประมูลงานใหม่ คาดการณ์ Backlog และโอกาสคว้างานประมูลเพิ่ม ในช่วงปี 2564-2566 กว่า 8,000 ล้านบาท ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบคมนาคมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบกับการขยายฐานรายได้งานบำรุงรักษา (MA) ซึ่งเป็นรายได้ประจำต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากงานโครงการและเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ คาดรายได้รวมเติบโต (CAGR) ปี 2563-2566 ราว 8.3% ต่อปีและคาดกำไรสุทธิปี 2563-2566 เติบโตราว 7.4% ต่อปี โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นปี 2562-2563 อยู่ที่ 18.3% และ 20.6% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ฐานะการเงินของ AMR ยังแข็งแกร่ง ก่อนการ IPO บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.01 เท่า โดยมีสถานะเป็น Net Cash มีเงินสดในมือสูง และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40%

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่าภายใต้จุดแข็งด้านวิจัยพัฒนาสินค้า และบริการตรงตามความต้องการลูกค้า ทำให้ AMR ได้รับงานจากผู้ให้บริการระบบรางหลักของประเทศเสมอ จึงพร้อมเติบโตไปกับเม็ดเงินลงทุนระบบรางมหาศาลรัฐฯ รวมถึงงานไอซีทีเป้าหมายที่เป็นพื้นฐานระบบ Smart Cities ใน 2-3 ปีจากนี้ ประเมินกว่าปีละ 3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เงิน IPO จะใช้รองรับปริมาณงานที่เข้ามาในอนาคต และลงทุนเป็นผู้ให้บริการระบบรางสายรอง (Feeder Line) และ Smart Cities ภายใต้สมมติฐานไม่รวมการลงทุนในโครงการให้บริการดังกล่าวที่นำเงิน IPO มาใช้อยู่ในราคา Fair Value คาดกำไรปี 2564-66 เติบโตเฉลี่ยปีละ 16.8% มูลค่าหุ้นปี 2564 อิง PER 25 เท่า อยู่ที่ 8.0 บาท ส่วนปี 2565 จะเพิ่มเป็น 9.70 บาท

ด้านนายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) กล่าวว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2564 บริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เรียบร้อยแล้ว ราว 1.4 พันล้านบาท และครึ่งปีหลังยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างยื่นประมูลงานเพิ่มอีกหลายโครงการในปีนี้ บริษัทคาดรับรู้อัตรากำไรปีนี้ปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยในแต่ละปีคาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตไม่น้อยกว่าปีละ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะหนุนให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการที่สร้างรายได้ประจำ อาทิเช่น Feeder Line – Smart City – EV Charging Station จากเงิน IPO เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคตอันใกล้นี้

“หลังจากได้รับเงินจากการขายไอพีโอในครั้งนี้ AMR จะแบ่งเงินออกมาสัดส่วนราว 85% นำไปใช้ในการลงทุนเพื่อต่อยอดสร้างผลตอบที่ดีขึ้น โดยเบื้องต้นมีแผนที่จะขยายการลงทุนในด้าน Feeder Line – Smart City – EV Charging Station เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ลดความผันผวนธุรกิจ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายมารุต กล่าวในที่สุด

Back to top button