JMART ตั้งเป้าปี 59 รายได้โต 15% จากจาก 3 ธุรกิจหลัก
JMART ตั้งเป้าปี 59 รายได้โต 15% จากปีนี้คาดทรงตัว ลุยเน้นตลาดออนไลน์มีแผนเปิดสาขาจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเลต หรือโซน ITEM ซึ่งจะเน้นด้าน GADGET ตั้งเป้า 10 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 2/59
นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีหน้าจะเติบโตได้ราว 15% มาจาก 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริมและสินค้าเทคโนโลยี, ธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีก ศูนย์รวมจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายใต้การบริหารของ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท และธุรกิจบริการติดตามเร่งรัดหนี้และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT
ขณะที่การร่วมมือทางธุรกิจหลังจากบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ในสัดส่วน 24.99% แล้วนั้น คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนของความร่วมมือมากขึ้นในปีหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยาย Jaymart Shop ในสาขาซิงเกอร์จำนวน 10 สาขา น่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือเติบโตราว 10% ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีก โดยเน้นธุรกิจรีเทล ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นและจุดแข็งของบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ไม่ได้เร่งรีบในการเข้าซื้อกิจการเข้ามา แต่จะเน้นการบริหารกิจการที่มีอยู่ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีรายได้เข้ามาอย่างมั่นคงก่อน
อีกทั้งเตรียมรุกธุรกิจไปยังตลาดออนไลน์มากขึ้น หลังพฤติกรรมผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 1/59 และน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
ประกอบกับ บริษัทมีแผนเปิดสาขาจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเลต หรือโซน ITEM ซึ่งจะเน้นด้าน GADGET ตั้งเป้า 10 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 2/59 โดยมองว่าจะช่วยตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าอุปกรณ์เสริมมากขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มรายได้เป็นเท่าตัว จากเดิมที่มีเพียงการขายโทรศัพท์มือถือผ่านหน้าร้าน Jaymart ต่อสาขาอยู่ที่ 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 9,284.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็น่าจะเป็นไปตามรายได้ แม้ว่าบริษัทจะมีการปิดสาขาที่ไม่สามารถทำยอดขายได้ดี และเปิดสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่มีความต้องการซื้อมาทดแทนราว 15 สาขา ซึ่งเท่ากับจำนวนสาขาที่ปิดไป ทำให้บริษัทไม่ได้สูญเสียรายได้มากนักแล้วก็ตาม
ส่วนงาน Thailand Mobile Expo 2015 showcase ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.58 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายภายในงานไว้ที่ 65 ล้านบาท โดยจะมีการนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ อย่างแบรนด์ Samsung ,I Phone, Huawei, Lenovo และ LG ซึ่งนอกจากจะเป็นสินค้ารุ่นใหม่แล้ว ยังถือว่ามีมูลค่าสูง และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างดี ประกอบกับ บริษัทก็มีบริการในเรื่องของการผ่อนชำระผ่านทางเจมันนี ซึ่งเป็นจุดเด่นและสามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาได้