กนอ.จ่อใช้มาตรการ “Bubble and Seal” เพื่อลดกระทบการผลิต-กระจายเชื้อ

กนอ.ยกระดับใช้มาตรการ “Bubble and Seal” สำหรับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม แยกผู้เสี่ยงไปกักตัว ยังสามารถทำงานได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิต ลดการกระจายเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดและชุมชนใกล้เคียง  


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อพิจารณาแนวทางควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรม โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องให้ใช้มาตรการ Bubble and Seal โดยแยกผู้ที่มีความเสี่ยงไปกักตัวแต่ยังสามารถทำงานได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิต ลดการกระจายเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดและชุมชนใกล้เคียง

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 รวมถึงแนวปฏิบัติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยจะมีการแบ่งพนักงานออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างกัน และระบบดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ภายในโรงงาน (รพ.สนามในโรงงาน) หรือ Factory Isolation แยกกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำให้กักตัวในสถานประกอบการ เพื่อจำกัดวงของการระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้การดำเนินงานในภาคการผลิตยังดำเนินต่อไปได้ตามปกติ

“กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรแยกจากกันอย่างชัดเจนเป็นคนละกลุ่ม และยังให้เขาทำงานได้ตามปกติ แต่ต้องเฝ้าสังเกตอาการใกล้ชิด ไม่ให้มีการข้ามกลุ่มกันไปมา ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องปิดโรงงาน ไม่เกิดการระบาดในชุมชน และพนักงานยังคงมีรายได้ เพื่อให้กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมถือเป็นภาคส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ ดังนั้นจะหามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ดำเนินงานได้อย่างดีที่สุด”นายวีริศ กล่าว

สำหรับมาตรการ Bubble and Seal จะต้องใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคเข้ามากำกับดูแล เช่น ต้องมีการประเมินความเสี่ยงทุกวัน ตรวจคัดกรองกลุ่มที่มีไข้ด้วยแอนติเจนท์ เทสต์ คิท กรณีมีแรงงานเข้ามาใหม่ต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการดูแลด้านสังคมด้วย เช่น จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงาน ชุมชน โรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับหากมีผู้ติดเชื้อ รวมทั้งสนับสนุนปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ มีการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

โดยมาตรการดังกล่าวมีการนำมาใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง และสามารถจำกัดการระบาดของไวรัสได้ดีในจังหวัดสมุทรสาครในระลอกที่ 2 ดังนั้นหาก กนอ.นำไปประยุกต์ใช้กับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ น่าจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ขณะเดียวกันรูปแบบที่ใช้ต้องเหมาะสมกับประเภทกิจการพื้นที่และแรงงานด้วย

“กนอ.จะหารือกับหน่วยงานปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เร่งจัดทำมาตรการ แนวทาง และรูปแบบในการดำเนินการ รวมทั้งอาจจะมีการพัฒนาระบบการแชร์ข้อมูลเพื่อรายงานผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินผลการดำเนินงานต่อไป ขณะที่กระทรวงดิจิทัลฯ เองก็พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องของสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณ WiFiด้วย” นายวีริศ กล่าว

 

Back to top button