HMPRO ร่วง 3% โบรกฯหั่นกำไรปีนี้เหลือ 5.38 พันลบ. เซ่นขยาย “ล็อกดาวน์” ฉุดยอดขายหดตัว
HMPRO ร่วง 3% โบรกฯหั่นกำไรปีนี้เหลือ 5.38 พันลบ. รับผลกระทบล็อกดาวน์ทำให้ต้องปิดสาขาชั่วคราว และยอดขายจากสาขาเดิมติดลบ Double Digit อีกทั้งคาดหากสถานการณ์โควิดไม่ดีขึ้นอาจกระทบยาวถึงไตรมาส 4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (6 ส.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ปิดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 12.60 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 3.08% โดยทำจุดสูงสุดที่ 13 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 12.50บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 486.05 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ส.ค. 2564) โดยทางฝ่ายวิจัยมีการปรับลด (de-rate) ปี 2564 ค่า PER ลงมาที่ 32.0 เท่า และปรับกำไรปี 2564 ลง หลังการประชุม Analyst Meeting (5 ส.ค. 2564) ซึ่งประเด็นสำคัญได้แก่ (1) ผลกระทบจาก Lockdown ทำให้ปัจจุบันต้องปิดหน้าร้าน Homepro ชั่วคราว 29 สาขา สาขาอื่นๆ ในเขตพื้นที่สีแดงมีการปิดแบบ Partial ในส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ Mega Home ปิดชั่วคราว 3 สาขา
ด้านสาขาในมาเลเซียยังคงถูกสั่งปิดชั่วคราวอยู่ทั้ง 7 สาขา (2) การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ล่าสุดเห็นการติดลบ Double Digit และคาดว่ากำไรในครึ่งปีหลัง 2564 จะอ่อนตัวลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจากครึ่งปีหลัง 2563 (3) บริษัทเตรียมกู้เงินระยะสั้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity) สำหรับ Operation ราว 2 – 4 พันล้านบาท โดยอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่า 1% (4) ยังคงแผนการเปิด 1 สาขาเขต มังกรหลวง โซนบางนาในไตรมาส 4/2564
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ลง 8% ที่ 5.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปรับรายได้ลง 7% เหลือ 6.07 หมื่น ล้านบาท จากการปิดสาขาชั่วคราวรวม 39 สาขา ทั้งนี้หากสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้นภายในเดือน ก.ย. ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาส 4/2564 ราคาหุ้น Underperform SET ลดลง 9% และลดลง 4% ใน 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังคงแนะนำ “ถือ” และปรับราคาเป้าหมายลงมาที่ 13.00 บาท เนื่องจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่มีความรุนแรงและเป็นวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังการซื้อของผู้บริโภคค่อนข้างมาก นอกจากนี้หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบยาวไปจนถึงไตรมาส 4/2564 โดยในระยะสั้นทางฝ่ายวิจัยยังไม่เห็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น