7UP ร่วงหนัก! 7 วันดิ่ง 62% กังวลงบ Q2 ต่ำกว่าไตรมาสแรก
7UP ร่วงต่อ 18% แรงเทขายไม่สะเด็ดน้ำ ดิ่งต่อเนื่อง 7 วันติดรวม 62% กังวลงบ Q2/64 ต่ำกว่าไตรมาสแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ส.ค. 64) ราคาหุ้นบริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP ปิดตลาดเช้านี้ (6 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.32 บาท ลดลง 0.27 บาท หรือ 16.98% โดยทำจุดสูงสุดที่ 1.61 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 1.28 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.66 พันล้านบาท
โดยราคาหุ้น 7UP มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง 7 วันลงไปแล้ว 62.13% สะท้อนถึงความกังวลว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 จะออกมาไม่เป็นตามคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ประกอบกับคาดว่าจะลดลงจากไตรมาส 1/2564 เนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษเข้ามาหนุน ขณะที่ในไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 123.41 ล้านบาท และรายได้การโอนกลับค่าเผื่อเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจำนวน 3.49 ล้านบาท
ส่วนของธุรกิจยอดขายน้ำประปาในภูเก็ตที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัท โกลด์ ซอร์ส จำกัด หรือ GS ว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อาจไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายน้ำมากขึ้น
เนื่องจากโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาเที่ยวภูเก็ตแบบไม่กักตัว ครบ 1 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค. 2564 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รวบรวมสถิติที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 14,055 คน โดยประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก คือสหรัฐ 1,802 คน, สหราชอาณาจักร 1,558 คน, อิสราเอล 1,455 คน, เยอรมนี 847 คน และฝรั่งเศส 839 คน มีจำนวนการจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ตลอดเดือน ก.ค.ที่ผ่านมารวม 190,843 คืน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกว่า 1.4 หมื่นคนที่เดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตลอดเดือนแรกที่เปิดดำเนินการ ช่วยสร้างรายได้แก่ภูเก็ต 829 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 58,982 บาทต่อทริป แบ่งเป็นค่าที่พักมากที่สุด 282 ล้านบาท ค่าซื้อสินค้าและบริการ 194 ล้านบาท ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 175 ล้านบาท บริการทางการแพทย์และสุขภาพ 124 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 54 ล้านบาท