3 หุ้นเรือทะยานไม่หยุด! RCL นำทีมบวก 5% รับ BDI นิวไฮรอบ 11 ปี ทะลุ 3,600 จุด
3 หุ้นเรือทะยานไม่หยุด! RCL นำทีมบวก 5% รับ BDI นิวไฮรอบ 11 ปี ทะลุ 3,600 จุด ลุ้นผลงานไตรมาส 3/64 เด่นต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(17ส.ค.64)ราคาหุ้น ราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือปรับตัวขึ้นแรงนำโดย บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL ราคาหุ้น ณ เวลา 11.01 น. อยู่ที่ระดับ 62.75 บาท บวก 2.75 บาท หรือ 4.58% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 780.55 ล้านบาท
ส่วน บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ราคาหุ้น ณ เวลา 11.02น. อยู่ที่ระดับ 23.90 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 611.28 ล้านบาท
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ราคาหุ้น ณ เวลา 11.03 น. อยู่ที่ระดับ 15.80 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 134.68 ล้านบาท
โดยดัชนีค่าระวางเรือ: Baltic Dry Index (BDI) ล่าสุด(16 ส.ค.2564) ปิดที่ 3,606 จุด ทำนิวไฮรอบ 11 ปี โดยเทียบตั้งแต่ดัชนยืนที่ระดับ 3,733 จุด เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2553
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์แนะ”เก็งกำไร” RCL เป้า Consensus 60 บาท ประเมินแนวโน้ม Earnings momentum ยังเป็นขาขึ้นต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาสติด ๆ (ไตรมาส 2-3) จาก Demand การขนส่งสินค้าทั่วโลกที่ยังเร่งตัวขึ้น ตัวเลขการส่งออกของไทยที่ยังเติบโต ขณะที่อุปทานเรือคอนเทนเนอร์มีจำกัด ส่งผลให้ดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ล่าสุดยังปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ บล.เคจีไอ ไต้หวัน คาดการ Re-stock สินค้าทั่วโลกยังเร่งตัวขึ้นไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย โดย Trailing PE 10 เท่า คาดว่าจะลดลงไปอีกหลังการรายงานงบฯไตรมาส 2-3
พร้อมประเมินแนวรับ 56 บาท ส่วนแนวต้าน 58 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 65 บาท (Stop loss 54 บาท)
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ค่าระวางเรือสูงผลักดันกำไรโตแรง ภาพรวมอุตสาหกรรมดูดีมาก ทั้งดัชนี BDI และ BHSI ทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี คาดว่ากำไรหลักปีนี้ฟื้นตัวเป็น 2.6 พันล้านบาท เทียบกับปี 63 ที่เป็น -590 ล้านบาท ส่วนปี 65 เติบโต 29% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 3.3 พันล้านบาท โดยมีสมมุติฐาน TC Rate ปีนี้โต 97% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและปีหน้าโตต่ออีก 9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนให้
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ เตรียมปรับประมาณการราคาเหมาะสมของ TTA เนื่องจากค่าระวางเรือเทกองปรับตัวขึ้นแรงเกินกว่าคาด ซึ่งจะทำให้กำไรปกติไตรมาส 2/64 ขยับสูง +180.6% จากไตรมาสก่อนหน้า สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยได้ประมาณการณ์ไว้
อีกทั้งประมาณการกำไรสุทธิในปี 2564 ที่เคยคาดไว้ที่ 242.4 ล้านบาท มีแนวโน้มว่าจะต่ำเกินไปจากธุรกิจ Shipping น่าจะดีกว่าที่คาดมาก เพราะค่าระวางเรือเทกองในตลาดในไตรมาส 2/64 เฉลี่ยอยู่ที่ 24,261 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพิ่มสูงขึ้นถึง 53.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 365.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งถือเป็นการปรับตัวสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดก่อนหน้านี้มาก
ขณะที่ ธุรกิจปุ๋ยในเวียดนามมีกำไรดีขึ้นเพราะเข้าสู่ High season ของการเพาะปลูก โดยฝ่ายวิจัยคาดรายได้รวม อยู่ที่ 4,672.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 58.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ธุรกิจเรือเช่า (Chartered-in vessel) ของ TTA ที่มีผลขาดทุนในไตรมาส 1/64 เพราะทำสัญญาเช่าล่วงหน้า ซึ่งปรับขึ้นไม่ทันกับ Spot rate คาดว่าจะดีขึ้นและหักล้างผลขาดทุนในไตรมาสก่อนได้ ส่วนธุรกิจบริการนอกชายฝั่งของ Mermaid จะเริ่มสร้างกำไรในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 เพราะมีงานจำนวนมากที่ถึงกำหนดส่งมอบ
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานยังดีต่อเนื่องในไตรมาส 3/64 ตามค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดปี อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยจะปรับประมาณการหลังการประชุมนักวิเคราะห์ช่วงกลางเดือน ส.ค. นี้ ซึ่งจังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมามองเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 18.00 บาท