MAJOR วิ่งแรง 7% โบรกฯ แนะซื้อเป้า 26.75 บ. ลุ้นผลงาน Q4 ฟื้นตัวแกร่ง

MAJOR วิ่งแรงเกือบ 7% มาที่ 19.30 บ. มูลค่าซื้อขาย 332.38 ลบ. โบรกฯ แนะซื้อเป้า 26.75 บ. จับตาไตรมาส 3/64 บันทึกกำไรขายหุ้น SF ราว 2.8 พันลบ. ลุ้นผลงานไตรมาส 4/64 ฟื้นตัวแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ล่าสุด ณ เวลา 15.09 น. อยู่ที่ 19.30 บาท บวก 1.20 บาท หรือ 6.63% สูงสุดที่ 19.40 บาท ต่ำสุดที่ 18.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 332.38 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.64) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 26.75 บาท โดยคาดว่า MAJOR ขาดทุนจากธุรกิจในไตรมาส 3/2564 หนักขึ้นทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรงมากขึ้นทำให้ต้องมีการปิดโรงภาพยนตร์ทุกแห่งชั่วคราวตั้งแต่สิงหาคมจากในไตรมาส 2/2564 ซึ่งปิดโรงภาพยนตร์ไปเพียงประมาณ 55% จากทั้งหมด 780 โรงทั่วประเทศ และในไตรมาส 3/2563 ที่โรงภาพยนตร์ทุกแห่งกลับมาเปิดบริการ คดว่าบริษัทจะกลับมามีกำไรอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไปเนื่องจากคาดว่ารายได้จากโรงภาพยนตร์จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/2564 จะได้แรงหนุนจากบันทึกกำไรพิเศษ 2.8 พันล้านบาทจากการขายหุ้นบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ หรือ SF ในปลายไตรมาส 3/2564

ส่วน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ส.ค.64) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น MAJOR ราคาเป้าหมาย 24 บาท โดย MAJOR รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 2/64 ที่ 218 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 54% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่ขาดทุนมากขึ้น 82% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ซึ่งน้อยกว่าที่บล.บัวหลวง คาด 21% (และน้อยกว่าที่ตลาดคาด 33%) เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทย่อยที่มากกว่าคาด นอกจากนี้คาดยังมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมสำหรับ SF ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทย่อยสูงกว่าปกติ ทั้งนี้ยังไม่รู้แน่ชัดถึงจำนวนกำไรพิเศษดังกล่าว (ที่ไม่ใช่เงินสด)

ส่วนแนวโน้มขาดทุนหลักในไตรมาส 3/64 จะมากน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งหาก MAJOR สามารถกลับมาเปิดโรงหนังได้อีกครั้งในเดือน ก.ย. ขาดทุนหลักในไตรมาส 3/64 จะลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และทรงตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน หากไม่สามารถเปิดได้ขาดทุนหลักในไตรมาส 3/64 จะทรงตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน แต่จะขาดทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้น SF ในไตรมาส 3/64

อย่างไรก็ดีแม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะยังไม่แน่นอน แต่ราคาหุ้น MAJOR ปรับตัวลงจาก 26 บาท มาเหลือเพียง 18 บาท ในช่วงเดือนที่ผ่านมา บ่งบอกว่าตลาดรับรู้ขาดทุนหลักในไตรมาส 2/64-3/64 ไปแล้ว คาดในฝั่งของอุปทานหนังไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากปัญหาโควิด 19 เริ่มคลี่คลายแล้วในหลายประเทศ (สหรัฐ จีน และอังกฤษ) MAJOR มีคิวภาพยนตร์ฮอลลีวูดดังจ่อรอฉายอยู่ เมื่อโรงหนังสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ รายได้ของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างมาก ตอนนี้คือเวลาที่ดีในการซื้อบนข่าวร้ายสำหรับ MAJOR

Back to top button