MEGA วิ่งแรง 9% โบรกประสานเชียร์ “ซื้อ” ครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับออเดอร์อาหารเสริมพุ่ง
MEGA วิ่ง 9% โบรกฯชี้ครึ่งปีหลังโตแกร่ง ธุรกิจอาหารเสริมยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากกระแสรักสุขภาพ อีกทั้งไตรมาส 4/2564 เป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ทางบล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ราคาเป้าหมาย 56.00 บาท สูงสุดการประเมิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ส.ค.2564) ราคาหุ้น บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ณ เวลา 11.38 น. อยู่ที่ระดับ 50.25 บาท บวก 4.00 บาท หรือขึ้นไป 8.65% โดยทำจุดสูงสุด 50.50 บาท ขณะที่ทำจุดต่ำสุด 46.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 742.18 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นบนกระดานยังคงปรับตัวขึ้นแรง ตอบรับหลังหลายโบรกเกอร์ต่างเชียร์ “ซื้อ” MEGA เล็งผลดำเนินงานครึ่งหลังปี 2564 โตดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ขานรับความต้องการอาหารเสริมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากกระแสรักสุขภาพ หนุนรายได้ Mega We Care (MWC) อีกทั้งไตรมาส 4/2564 เป็นช่วง High Season ด้วย
สำหรับคำแนะนำ อาทิ บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 56.00 บาท ตามด้วย บล.เคทีบีเอสที แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 53.00 บาท และ บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท
ทั้งนี้ นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้น MEGA จัดได้ว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ซึ่งฝ่ายวิจัยได้มีการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นหลังจากที่ผลกำไรงวดไตรมาส 2/2564 ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งรับผลจากความต้องการอาหารเสริมที่ยังดีจากคนรักสุขภาพกันมากขึ้นด้วย ทำให้ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของ MEGA อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2564 เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/2564 เป็นช่วง High Season ของธุรกิจด้วย ทำให้ครึ่งปีหลังมีโอกาสที่ผลดำเนินงานจะดีกว่าครึ่งปีแรก
โดยในครึ่งปีแรกรายได้ของ MEGA ทำได้ประมาณ 6,800 ล้านบาท ซึ่งทั้งปี 2564 คาดว่าจะมีรายได้ 13,900 ล้านบาท ส่วนกำไรในครึ่งปีแรกทำได้ประมาณ 800 ล้านบาท ทั้งปี 2564 คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยหลักๆรับผลมาจากธุรกิจ Mega We Care (MWC)
ด้าน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับประมาณกำไรสุทธิปี 2564 – 2565 ของ MEGA เพิ่มขึ้น 8% เพื่อสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ที่ดีกว่าคาดมาก และโมเมนตัมของรายได้ที่ดีต่อเนื่องจากโควิด-19 New Normal ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป Health Conscious มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ MEGA ได้ประโยชน์ในระยะยาว โดยปรับประมาณการรายได้และ GPM ขึ้น
ขณะเดียวกันประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 1,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน บนสมมติฐานรายได้ MWC ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ใน Southeast Asia และ Africa เติบโตต่อเนื่อง และรายได้ Maxxcare (MC) ขยายตัวต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จาก principal ที่เพิ่มขึ้น และ GPM ขยายตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ในปี 2565 คาดกำไรสุทธิที่ 1,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้รวมที่เติบโต เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ MWC ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, รายได้ MC เติบโตต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ GPM ทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำหุ้น MEGA กำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ที่ 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 55% จากไตรมาสก่อน ดีกว่าคาด หลักๆ มาจากรายได้ และ GPM ของธุรกิจ MWC ที่ดีกว่าคาด แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/2564 คาดยังคงโตต่อเนื่องจากงวดเดียวกันของปีก่อน หลักๆมาจากธุรกิจ MWC ที่ยังโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน ผลักดันรายได้และ GPM สูงขึ้น พร้อมปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564-2566 ขึ้น +15%/+11%/+6% เพื่อสะท้อนรายได้ MWC ที่ดีกว่าคาดจากความต้องการอาหารเสริมที่สูงขึ้น และคาดจะกลายเป็น New Normal