น้ำมันดิบปิดปิดบวกรับข้อมูลการผลิตในสหรัฐฯน้ำมันลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.6% ปิด (5 ต.ค.) ที่ 46.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 49.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง โดยเบเกอร์ฮิวจ์รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงอีก 26 แท่น เหลือ 614 แท่น ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว และหากรวมแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ตัวเลขแท่นขุดเจาะลดลงทั้งสิ้น 29 แท่น มาอยู่ที่ 809 แท่น

ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย. ลดลง 40,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.096 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน WTI ยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

อย่างไรก็ตาม แรงบวกได้ถูกสกัดลงเนื่องจากข่าวที่ว่าบริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออย หรืออารัมโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย ประกาศลดราคาน้ำมันดิบเกรดมีเดียมส่งมอบเดือนพ.ย.แก่ตลาดเอเชียเป็น 3.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มอบส่วนลดราคาน้ำมันส่งมอบเดือนต.ค.ที่ 1.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อตัดราคาแข่งกับคู่แข่งรายอื่นๆ ท่ามกลางความต้องการน้ำมันดิบอันซบเซา อีกทั้งยังเป็นการปรับลดราคาที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2555

Back to top button