ILINK บวก 7% จับตางบไตรมาส 3 โตแรง! รับไฮซีซั่น-มั่นใจทั้งปีรายได้นิวไฮแตะ 6 พันลบ.
ILINK บวก 7% โดย ณ เวลา 15.26 น. อยู่ที่ 8.75 บาท บวก 0.60 บาท จับตางบไตรมาส 3 โตแรง! รับไฮซีซั่น-มั่นใจทั้งปีรายได้นิวไฮแตะ 6 พันลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1 ก.ย.64)ราคาหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ณ เวลา 15.26 น. อยู่ที่ 8.75 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 7.36% สูงสุดที่ 8.90 บาท ต่ำสุดที่ 8.15 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 92.93 ล้านบาท
โดยนายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่ม ILINK เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 จะเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/64 จากการรับรู้รายได้งานในมือ (Backlog) ในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) เข้ามาอีก 904 ล้านบาท แบ่งเป็น งานการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) จำนวน 39 ล้านบาท, งานให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Data service) จำนวน 618 ล้านบาท และงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation) จำนวน 247 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ณ สิ้นไตรมาส 2/64 บริษัทมีโครงการในมือรวมทั้งสิ้น 8 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 769 ล้านบาท ขณะเดียวกันในไตรมาส 3/64 บริษัทได้เซ็นสัญญางานใหม่เพิ่มเติมอีการวม 595 ล้านบาท ได้แก่ งาน Submarine Cable-Panyi Island มูลค่า 144 ล้านบาท, Submarine Cable-Chao Phraya River มูลค่า 85 ล้านบาท และ Substitution-3 Provinces (Consortium) มูลค่า 366 ล้านบาท ส่งผลทำให้ปัจจุบัน Backlog รวมอยู่ที่ 1,364 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังนี้ราว 60% ส่วนที่เหลือจะรับรู้ฯในปีถัดไป
ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ก็คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากจะมีการจัดงานมหกรรมลดราคาให้แก่ลูกค้า คาดว่าจะช่วยหนุนยอดขายให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้มั่นใจว่าทั้งปี 64 บริษัทจะมีรายได้รวมเติบโตแตะ 6,000 ล้านบาททำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,200 ล้านบาท โดยจะมาจากทั้ง 3 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจวิศวกรรม และธุรกิจจัดจำหน่าย ที่เติบโตต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ในไตรมาส 3/64 บริษัทยังมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) ให้แก่ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) จำนวน 50 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทคงเหลือถือหุ้น ITEL ในสัดส่วน 55.46% จากเดิม 60.31%
ส่วนต้นทุนราคาทองแดงที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯ ก็ได้มีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในส่วนของต้นทุนของบริษัทจะล้อไปกับราคาทองแดงและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งในด้านราคาสินค้าของบริษัทปกติมักจะมีการปรับราคาทุกๆ ช่วงต้นปีและกลางปี