SAPPE วิ่ง 5% ลุ้นครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับเทรนด์กัญชง โบรกฯ ชู P/E ต่ำ-ปันผลสูง
SAPPE วิ่ง 5% ราคาแตะ 28.75 บ. ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง จ่อออกสินค้าใหม่รับเทรนด์กัญชง-ส่งออกขยายตัว โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ชู P/E ต่ำกลุ่ม-ปันผลสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ล่าสุด ณ เวลา 10.50 น. อยู่ที่ 28.75 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 5.50% สูงสุดที่ 28.75 บาท ต่ำสุดที่ 27.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 105 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.2564) ว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SAPPE ราคาเป้าหมาย 36 บาท แนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 2564 จะเร่งตัวขึ้นแม้จะมีการ Lockdown แต่ด้วยสัดส่วนการส่งออกที่สูงถึง 65% ยังแข็งแกร่ง และได้อานิสงส์จากบาทอ่อน ส่วนตลาดในประเทศทยอยฟื้นตัว ตามการผ่อนคลายมาตรการ
นอกจากนี้ยังเตรียมออกสินค้าใหม่โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2564 รวมถึงเครื่องดื่มกัญชง รอเพียงอย.อนุมัติให้ใส่ CBD ในอาหาร ยังคาดกำไรปี 2564-2565 เติบโต 26% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเทรด PE ต่ำสุดในกลุ่ม
ส่วน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.ย.2564) ว่า แนะนำ SAPPE ราคาเป้าหมาย 35 บาท โดยภายหลังจากราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับ 429) เรื่อง ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีสารสกัดแคนนาบิไดออล เป็นส่วนประกอบ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 28 ส.ค. 64 มองว่าประกาศดังกล่าวสร้างความชัดเจนให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มฯ เพื่อวางแผนการตลาดต่อไป คาดว่าจะเห็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ผสม CBD ในกรณีเร็วสุด จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่งวดไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้เชื่อว่า SAPPE ที่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเข้าเกณฑ์ สามารถเริ่มดำเนินตามแผนธุรกิจได้ทันที ผ่านการนำสาร CBD มาผสมในแบรนด์เครื่องดื่มที่บริษัทฯ มีอยู่แล้ว (เช่น Beauti Drink) ถือว่าค่อนข้าง ได้เปรียบกว่ากลุ่มฯ กอปรกับสาร CBD ที่ช่วยเรื่องการผ่อนคลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว สำหรับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กอปรกับฐานกำไรไม่สูงมากราว 400 ล้านบาทต่อปี จึงเห็นผลต่อประมาณการกำไรได้ดีกว่า OSP ที่ฐานกำไรราว 3.5 พันล้านต่อปี หากกระแสตอบรับสินค้าค่อนข้างดี
นอกจากปัจจัยข้างต้น ราคาหุ้นช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างทรงตัว เมื่อเทียบกับ SET Index ที่ปรับเพิ่มขึ้น 2% ในเชิง Valuation พบว่า PER อยู่ที่ 19 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ ซื้อขายบริเวณ 25 – 30 เท่า (OSP ที่ 28 เท่า, CBG และ ICHI อิงจาก Bloomberg ที่ 37.4 และ 22.8 เท่า ตามลำดับ) ประกอบกับสถานะการเงินเป็น Net cash ราว 1.4 พันล้านบาท พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตและคาดหมาย Div yield ราว 4% ต่อปี (จ่ายปีละครั้ง)