“เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” อัพกำไร JMART ปี 65-66 โตเฉลี่ย 30% เคาะเป้าหลังเพิ่มทุน 46.50 บ.
"เมย์แบงก์ กิมเอ็ง" อัพกำไร JMART ปี 65-66 โตเฉลี่ย 30% เคาะเป้าหลังเพิ่มทุน 46.50 บ. จับตาพันธมิตรที่แข็งแรง VGI-U เข้าถือหุ้น ช่วยผลักดันสินค้า-บริการ ดันสู่ผู้นำบริการทางการเงินครบวงจรไทยในไม่กี่ปีข้างหน้า
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(2 ก.ย.64) ว่า บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART โดยมองเป็นบวกต่อการเข้าร่วมลงทุนของ VGI-U มายังกลุ่มบริษัทฯ คิดเป็นเงินลงทุนร่วม 20,000 ล้านบาท คาดให้ผลเชิงบวกในรูปแหล่งทุน-ต้นทุนทางการเงินที่ชดเชยหุ้นที่เพิ่มขึ้น (EPS Dilution) ได้ภายในปี 2565 โดยไม่รวมความร่วมมือด้านธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน (ค้าปลีก-การเงิน-สื่อ-โลจิสติกส์) ทำให้กำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด (J-Curve) เชื่อว่าดีลนี้จะยกระดับ JMART สู่หนึ่งผู้นำบริการทางการเงินครบวงจรทั้งขาย-ผ่อน-บริหารหนี้ของไทยในไม่กี่ปีข้างหน้า
VGI และ U ได้เข้าร่วมทุนในรูปแบบ PP สัดส่วน 15% และ 9.9% ตามลำาดับ ณ ราคา 30.337บ./หุ้น คิดเป็นเงินทุนราว 1.04 หมื่นล้านบาท จะถูกนำไปใช้สิทธิ์สำหรับหุ้นเพิ่มทุน RO ตามสัดส่วนใน JMT+ SINGER (มี U เพิ่มทุน PP โดยตรงอีก 7 พันลบ.) จากการประเมินทำให้กำไรในปี 65-66 ราว 20-40% จากดอกเบี้ยที่ลดลงและการขยายพอร์ตหนี้ตอกย้ำภาพของ JMART ที่เป็น Investment company ในจังหวะที่สองบริษัทกำลังเติบโตมากกว่า 30% ใน 3 ปีข้างหน้าอีกมุมมหนึ่งด้วยเงินทุนที่เพิ่มอย่างก้าวกระโดดจะทำให้ความสามารถแข่งขันของกลุ่มแข็งแรงขึ้นตามฐานะทางการเงิน D/E ลดลงต่ำกว่า 1x พร้อมสำหรับการเติบโตอีกหลายปีมาพร้อม Synergy ที่อยู่นอกเหนือประมาณการตลาด
นอกเหนือผลประโยชน์ด้านการเงิน เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือทางธุรกิจแบบ 360 องศา เช่น i) การใช้ประโยชน์ของ platform ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า-สื่อ-โครงข่ายแฟรนไชส์ เพื่อต่อยอดธุรกิจในมือเช่น KBJ (Retail finance) x Rabbit เพื่อนาเสนอผลิตภัณฑ์การเงินที่แตกต่างหรือการเพิ่มหมวดสินค้า Mobile เข่น IoTs Xiaomi (จัดจาหน่ายผ่าน Fanslink ถือหุ้นโดย VGI) ii) JFIN coin ที่จะนำไปใช้เป็นตัวกลางของ Ecosystem ระหว่างกลุ่ม JMART-BTS ทั้งในรูปโปรโมชัน-ส่วนลดบริการ iii) การปลดล็อคมูลค่าของบริษัทในเครือ คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4/2564 เริ่มเห็นบางโครงการจะเริ่มทดลองออกสู่ตลาด
คงคำแนะนำซื้อราคาเหมาะสมหลังเพิ่มทุนเท่ากับ 46.50 บาท ปรับประมาณการกาไรปี 2565-66 เฉลี่ย 30% เป็น 1,930/2,660 บ. +55/+37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามส่วนแบ่งกำไรจาก JMT-SINGER ที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นการเติบโตของกาไรต่อหุ้นเฉลี่ย 46% ในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็น P/E’65 = 28x (PEG 0.6x) เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมปี 2565 หลังปรับโครงสร้างเท่ากับ 46.50 บาท อิงวิธี SOTP เชื่อว่าพันธมิตรที่แข็งแรงอย่าง VGI-U ที่เข้ามาถือหุ้นอย่างมีนัยสาคัญในครั้งนี้จะช่วยผลักดันสินค้า-บริการเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดได้อย่างรวดเร็วกว่าอดีต