SMART พุ่งกระฉูด 23% ลุ้นผลงานครึ่งหลังโตต่อ! รับคำสั่งซื้อสินค้าสดใส-เร่งออกสินค้าใหม่
SMART พุ่งกระฉูด 23% ลุ้นผลงานครึ่งหลังโตต่อ! รับคำสั่งซื้อสินค้าสดใส-เร่งออกสินค้าใหม่ผนังมวลเบา ขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(8ก.ย.64) ราคาหุ้นบริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART ณ เวลา 16.02 น. อยู่ที่ระดับ 1.05 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 23.53% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 244.82 ล้านบาท ราคาหุ้นบวกแรงในรอบ 4 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.09 บาท เมื่อวันที่ 10 พ.ค.64
โดยก่อนหน้านี้ นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งแรกปี 2564 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 235.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 212.56 ล้านบาท จำนวน 22.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.61% และมีกำไรสุทธิ 23.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.97 ล้านบาท จำนวน 2.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.72 %
ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 111.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 94.64 ล้านบาท จำนวน 16.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.50% และมีกำไรสุทธิ 9.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.45 ล้านบาท จำนวน 0.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.75 %
ทั้งนี้ ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาตกแต่ง ในช่วงไตรมาส 2/64 มีปริมาณการผลิตและยอดขายสูงสุด ทำนิวไฮเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งปริมาณคำสั่งซื้ออิฐมวลเบาเพิ่มขึ้น มีการเรียกเข้าสินค้าจากงานโครงการเดิมที่ชะลอไปและงานโครงการใหม่ ปัจจัยสนับสนุนจากนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ นโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 3/64 มีแนวโน้มทรงตัว จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 การปิดแคมป์ก่อสร้าง หยุดทำงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล พื้นที่ใน 4 จังหวัดภาคใต้เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน และปัญหาการขาดแคลนแรงงานส่งผลกระทบกับบริษัทในระยะสั้น จากการชะลอการก่อสร้าง ภาครัฐ-เอกชนบางโครงการ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีคำสั่งซื้อจากกลุ่มผู้รับเหมา ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง งานก่อสร้างโครงการ เมกะโปรเจ็คในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกและภูมิภาคอื่น ๆ ที่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง
“บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจก้าวสู่การเป็นผู้นำผนังอิฐมวลเบาครบวงจร เตรียมออกสินค้าอิฐ มวลเบาประหยัดพลังงานขนาดใหม่เพื่องานโครงสร้าง ช่วยแก้ปัญหาการก่อสร้าง ลดต้นทุน ทำให้งานเสร็จรวดเร็ว อีกทั้งเตรียมออกสินค้าใหม่อิฐมวลเบาสำหรับงานตกแต่งภูมิทัศน์ ช่วยปรับพื้นที่สวน และบริเวณภายนอกบ้าน และสินค้าอิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น พร้อมกลยุทธ์การตลาดขยายฐานลูกค้า แนะนำสินค้าต่อกลุ่มสถาปนิก ผู้รับเหมารายย่อย เจ้าของบ้าน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายรังสี กล่าว