MAJOR พุ่งแรง 8% ลุ้น Q3 ฟื้นตัวแกร่ง หลังบุ๊คกำไรขาย SF โบรกฯ เคาะเป้า 28 บ.
MAJOR พุ่งแรง 8% ราคาแตะ 22.30 บ. ลุ้นไตรมาส 3/64 ฟื้นตัวแกร่ง หลังบุ๊คกำไรขาย SF จับตาไตรมาส 4/64 โตต่อ หลังกลับมาเปิดโรงภาพยนตร์เพิ่ม หนังทำเงินจ่อคิวฉายเพียบ โบรกฯ แนะ “ซื้อ” เคาะเป้า 28 บ. ชูปันผลน่าสนใจ มองปี 65 พลิกมีกำไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ล่าสุด ณ เวลา 10.20 น. อยู่ที่ 22.30 บาท บวก 1.70 บาท หรือ 8.25% สูงสุดที่ 22.50 บาท ต่ำสุดที่ 20.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 171.51 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.ย.2564) แนะนำ “ซื้อ” MAJOR ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 28 บาท จาก 25.5 บาท โดยบริษัทกลับมาเปิดดำเนินการ 61 โรงภาพยนตร์ใน 33 จังหวัด แต่คาดจะเปิดได้ทั่วประเทศใน 1 ต.ค. 21 อ้างอิงกรอบเวลาของรัฐบาล บริษัทมีความพร้อมในการกลับมาเปิดดำเนินงาน โดยมีภาพยนตร์บลอคบัสเตอร์หลายเรือง โดยเฉพาะ Fast & Furious 9, Black Widow, Spider Man, และ No Time to Die (James Bond 007) รอชาย; นอกจากนี้บริษัทคาดจะได้เงินจากการขาย SF ในไตรมาส 3/2564 ประมาณ 7.7 พันล้านบาท (หลังภาษี 7.5พันลบ.) โดยจะใช้เงิน 30% สำหรับชำระหนี้, 28% เงินทุนหมุนเวียนและ 41% ลงทุน
ทั้งนี้สอดคล้องไปกับคาดการณ์ของบล.กรุงศรี ซึ่งคาดการดำเนินงานหลักไตรมาส 3/2564 จะขาดทุน จากการปิดโรงภาพยนตร์ชั่วคราวทั่วประเทศ แต่ได้กำไรพิเศษ 2.8 พันล้านบาทชดเชย รวมรายการพิเศษนี้เข้าในประมาณการของบล.กรุงศรี คาดการดำเนินงานจะพลิกเป็นกำไรในไตรมาส 4/2564 จากการเปิดดำเนินการอีกครั้ง โดยรายชื่อภาพยนตร์แข็งแกร่งจะช่วยให้ผลประกอบการพลิกในไตรมาส 4/2564
สำหรับภาพรวมคาด MAJOR จะขาดทุน 86 ล้านบาทในปี 2564 และพลิกเป็นกำไร 1.1 พันล้านบาทในปี 2565 ซึ่งบล.กรุงศรีวิเคราะห์ปันผลจากการขาย SF โดยเชื่อว่า MAJOR สามารถใช้เงินสำรองทั้งหมด 2.1 พันล้านบาทที่กล่าวไว้ข้างต้นในการจ่ายปันผล คาดเงินสำรองอย่างน้อย 50% (1พันล้านบาท) จะถูกใช้ในการจ่ายปันผล เทียบเท่าผลตอบแทนปันผล 5% แต่ถ้าจ่ายทั้ง 2.1 ล้านบาทจะเทียบเท่า 11%