แม่ลูก “ศรีตรัง” ร่วง กระทบโควิดในปท.ดีขึ้นฉุดดีมานด์ โบรกฯมองกำไรครึ่งปีหลังชะลอตัว
แม่ลูก STA-STGT ควงแขนร่วง หลังสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้นทำให้ความต้องการถุงมือยางลดลง โบรกฯคาดกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัว อีกทั้งราคายางในตลาดโลกในเดือน ก.ย.ปรับลดลงจากเดือน ส.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (13 ก.ย. 2564) ราคาหุ้น STA-STGT ปรับตัวลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดีขึ้น โดย ราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ณ เวลา 12.27 น. อยู่ที่ระดับ 35.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 5.37% โดยทำจุดสูงสุดที่ 37.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 35.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 720.30 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ณ เวลา 12.27 น. อยู่ที่ระดับ 34.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.82% โดยทำจุดสูงสุดที่ 35.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 34.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.00 พันล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ราคาหุ้น STA ปรับตัวลงตาม STGT ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ด้วยจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นทำให้ความต้องการถุงมือยางลดลง ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัว หลังผ่านจุดพีคไปแล้วในไตรมาส 2/2564 ประกอบกับราคายางในตลาดโลกในเดือน ก.ย.ปรับลดลงจากเดือน ส.ค.
ขณะเดียวกันบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบในบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มถุงมือยางภาพรวมยังได้รับแรงกดดันจากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะชะลอลงตามสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้น ขณะที่ในระยะสั้นจะได้รับปัจจัยลบจากการที่สหรัฐกลับมาอนุญาตให้ Top Glove ผู้ผลิตถุงมือยางที่ใหญ่สุดของโลก สามารถส่งสินค้ามายังสหรัฐได้อีกครั้งหลังจากแบนมาตั้งแต่เดือน ก.ย.2563 จากปัญหาการใช้แรงงานไม่ถูกต้อง